สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ เมื่อวันที่ 3 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีมาซูด เปเซชเคียน ผู้นำอิหร่าน กล่าวระหว่างการเยือนกาตาร์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมความร่วมมือเอเชีย (เอซีดี) ว่า รัฐบาลเตหะรานไม่เคยต้องการสงครามกับอิสราเอล อย่างไรก็ตาม หากอิสราเอลต้องการ “แสดงปฏิกิริยา” การตอบสนองของอิหร่าน “จะหนักหน่วงมากขึ้น” และประณามอีกฝ่ายว่า ต้องการสร้างความไร้เสถียรภาพ และทำให้วิกฤติแผ่ขยายไปทั่วทั้งภูมิภาค


ขณะที่ชีค ทามิม บิน ฮาหมัด อัล ธานี เจ้าผู้ครองรัฐกาตาร์ ตรัสว่า การที่อิสราเอลปฏิบัติการทางทหาร กับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน เป็นการผลักดันให้ตะวันออกกลางทั้งภูมิภาค “อยู่บนปากเหว” และทรงประณาม การที่อิสราเอลยังเดินหน้าโจมตีฉนวนกาซา พร้อมทั้งทรงยืนยันว่า รัฐบาลโดฮาซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ไกล่เกลี่ย จะพยายามผลักดันให้การเจรจามีความคืบหน้าไปสู่การหยุดยิงระยะยาว ระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮามาส


ทั้งนี้ สถานการณ์ในภูมิภาคตะวันออกกลางทวีความตึงเครียดขึ้นอีกระดับ เมื่ออิหร่านยิงขีปนาวุธราว 200 ลูก โจมตีเป้าหมายทางทหารหลายแห่งในอิสราเอล เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อตอบโต้ที่อิสราเอลสังหารนายอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส นายฮัสซัน นาสราลเลาะห์ ผู้นำสูงสุดของกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ และทหารระดับสูงของอิหร่านอีกหลายนาย ที่ประจำการอยู่ในเลบานอน และซีเรีย


ด้านกองทัพอิสราเอลยืนยันว่า ระบบป้องกันสามารถสกัดการโจมตีของขีปนาวุธจากอิหร่านได้แทบทั้งหมด แต่มีขีปนาวุธหลายลูกตกในเขตฐานทัพอากาศ และสร้างความเสียหายให้กับโรงเรียนแห่งหนึ่ง ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 2 คน.

เครดิตภาพ : AFP