เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.วัฒนธรรม (วธ.) เป็นประธานในการมอบนโยบายขับเคลื่อน “เศรษฐกิจวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาชุมชน สังคม และประเทศชาติอย่างยั่งยืน” โดยมีนางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัด วธ. ผู้บริหาร วธ. หัวหน้าส่วนราชการ และองค์การมหาชน ในสังกัด วธ. วัฒนธรรมจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วม

โดย รมว.วธ. กล่าวมอบนโยบาย ว่า เนื่องในโอกาสที่ วธ. ครบรอบปีที่ 22 วันที่ 3 ต.ค. 2567 ก้าวต่อไปสู่ปีที่ 23 ยังคงมีจุดเน้นในการชูวัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ มุ่งส่งเสริมนำวัฒนธรรมไทยมาสืบสาน รักษา และต่อยอดไปสู่มิติใหม่ๆ เพื่อให้เกิดการสร้างคุณค่าทางสังคมและมูลค่าทางเศรษฐกิจ ตลอดจนขับเคลื่อน Soft Power ด้วยมิติวัฒนธรรม มุ่งสู่เศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 มีกรอบแนวคิดขับเคลื่อนงาน คือ “4-3-2-1” หรือ “4 นโยบาย-3 แนวทาง-2 รูปแบบ-1 เป้าหมาย” ซึ่ง 4 นโยบาย ได้แก่ 1.ส่งเสริม สร้างสรรค์ ผลักดันทุนทางวัฒนธรรมให้เป็นทุนทางเศรษฐกิจ 2.เสริมสร้างระบบนิเวศและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจวัฒนธรรม 3.เสริมพลังสร้างสรรค์ให้คนเป็นปัจจัยสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจวัฒนธรรมและสังคม 4.พัฒนาและผลักดันสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมให้มีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นในตลาดโลก ส่วน 3 แนวทาง คือ 1.เชื่อมโยงอุตสาหกรรมวัฒนธรรมกับอุตสาหกรรมสาขาอื่นๆ อาทิ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เกษตร การแพทย์ เป็นต้น 2.บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนและทุกหน่วยงาน โปร่งใส ไม่ซ้ำซ้อน และ 3.ยั่งยืน คำนึงถึงความยั่งยืน 3 มิติ คือ ประโยชน์ที่ยั่งยืนแก่ประเทศชาติและประชาชน การบริหารจัดการที่ยั่งยืน และคุณค่าของวัฒนธรรมที่ยั่งยืน

รมว.วธ. กล่าวอีกว่า ขณะที่ 2 รูปแบบ คือ 1.รักษาสิ่งเดิม 2.เพิ่มเติมสิ่งใหม่ อาทิ เร่งขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมทั้งในระดับท้องถิ่น ประเทศ และโลก นำทุนทางวัฒนธรรมที่เข้มแข็งมาต่อยอดทางเศรษฐกิจ สร้างการยอมรับต่อวัฒนธรรมไทยของผู้คนทั่วโลก ผ่านงานวิเทศด้านวัฒนธรรมและการสนับสนุนการทูตวัฒนธรรม ผลักดันให้วัฒนธรรมไทย “เข้าใจง่าย” “เข้าถึงได้” และ “ได้ใจด้วย” ใช้ทรัพยากรและทุนทางวัฒนธรรมของวธ.ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พัฒนาสินค้าและบริการวัฒนธรรมตามความต้องการของตลาด พร้อมทั้งศึกษาวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค ผลักดันสินค้า บริการทางวัฒนธรรม เข้าสู่แพลตฟอร์มซื้อขายออนไลน์ระดับโลก สร้างความโดดเด่น ยกระดับคุณค่า มูลค่าของสินค้า และบริการ ด้วยอัตลักษณ์วัฒนธรรม พัฒนาสู่สินค้าและบริการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพในตลาดโลก เป็นต้น โดยขับเคลื่อนสู่ 1 เป้าหมาย คือ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ด้วยเศรษฐกิจวัฒนธรรมใน 3 ด้าน ประกอบด้วย ด้านเศรษฐกิจ เร่งเพิ่ม GDP ด้านวัฒนธรรม ด้านสังคมยั่งยืน เพิ่มจำนวนแรงงานทักษะสูงด้านวัฒนธรรมจาก 9.9 แสนคน สู่ 1.2 ล้านคน และเข้าสู่ระบบวิชาชีพ การขับเคลื่อนสู่เวทีโลก โดยผลักดันให้ไทยเป็น 1 ใน 25 ประเทศที่มีอิทธิพลด้าน Soft Power ในมิติวัฒนธรรม

น.ส.สุดาวรรณ กล่าวด้วยว่า วธ. จะส่งเสริม Soft Power ผ่านการยกระดับทักษะและปลดล็อกศักยภาพของคนไทย ด้วยการขับเคลื่อนการยกระดับทักษะ 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS) คู่ขนานไปกับการเพิ่มการเข้าถึงศิลปวัฒนธรรมของผู้คน รวมไปถึงการผลักดันอุตสาหกรรมวัฒนธรรม อาทิ ภาพยนตร์และคอนเทนต์ ศิลปะ แฟชั่น อาหารไทย นอกจากนี้ ยังร่วมผลักดันการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เทศกาลประเพณี ให้ไทยเป็นประเทศแห่งเทศกาลประเพณีในระดับโลก อย่างไรก็ตาม จะต้องนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติให้เห็นผลงานอย่างเป็นรูปธรรม โดย วธ. ต้องมีทั้งผลงานและผลลัพธ์ที่ชัดเจนตามเป้าหมาย 3 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สังคม และการขับเคลื่อนสู่เวทีโลก ต้องมีความคืบหน้าและผลสัมฤทธิ์ภายในเวลา 12 เดือน เพื่อเร่งขับเคลื่อน วธ. สู่กระทรวงสังคมกึ่งเศรษฐกิจ อาทิ วธ. จะร่วมมือกับรัฐบาลเร่งกระตุ้นการท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์และวัฒนธรรม การท่องเที่ยวยามค่ำคืน และเทศกาลประเพณีระดับโลกผ่าน World Event อย่างประเพณีลอยกระทง และเร่งรัดความคืบหน้า พ.ร.บ.ภาพยนตร์ รวมถึง พ.ร.บ.เกม ตลอดจนยกระดับทักษะผู้ผลิตและผู้ประกอบการทางวัฒนธรรม สู่การแข่งขันในระดับโลก พร้อมกับนำความเชื่อ ความศรัทธาในท้องถิ่น นำมาต่อยอดสู่การสร้างรายได้อย่างสร้างสรรค์ ยกระดับวัฒนธรรมท้องถิ่น เปิดให้บริการหอศิลป์แห่งชาติ เพื่อเป็นพื้นที่ที่สร้างแรงบันดาลใจ พร้อมทั้งเร่งยกระดับอุตสาหกรรมภาพยนตร์และคอนเทนต์ไทย ไปพร้อมกับอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสาขาอื่นๆ และผลักดันเมืองสร้างสรรค์ เชื่อมโยงท้องถิ่นสู่สากล เน้นปลุกพลังสร้างสรรค์ศักยภาพของคนรุ่นใหม่ ผ่านกิจกรรมและพื้นที่ทางวัฒนธรรมทั่วประเทศ