เมื่อวันที่ 2 ต.ค. ที่ห้องบรรยาย สำนักบริหารคอมพิวเตอร์ ม.เกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพฯ ดร.พงษ์ศักดิ์ สวัสดิเกียรติ รองผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย เป็นประธานเปิดโครงการ Youth Sport Leaders Training Camp 2024 (ยูธ สปอร์ต ลีดเดอร์ เทรนนิ่งแคมป์) ซึ่งเป็นกิจกรรมในช่วงที่ 2 ระหว่างวันที่ 2-3 ต.ค. 67 หลังจากผ่านช่วงแรกในภาคปฏิบัติในช่วงวันที่ 29 ก.ย.-1 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยมี ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ อธิการบดี ม.เกษตรศาสตร์, ผศ.ดร.อานนท์ วันลา กรรมการฝ่ายวิชาการและวิจัย สถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย และนายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ร่วมในพิธีเปิดโครงการ

สำหรับโครงการยูธ สปอร์ต ลีดเดอร์ เทรนนิ่งแคมป์ เป็นโครงการพัฒนานักกีฬาวอลเลย์บอล มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและพัฒนานักกีฬาระดับเยาวชน ในประเทศไทย ที่มีความสามารถโดดเด่น ให้มีองค์ความรู้ มีทักษะ และมีทัศนคติที่ดีในการพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพที่จะก้าวสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติอย่างมีคุณภาพ ซึ่งสมาคมฯ ได้รับการสนับสนุนจาก สถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย (Thailand Olympic Academy : TOA) เป็นการอบรมเชิงทฤษฎีและปฏิบัติ ในรูปแบบของการเตรียมความพร้อมสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติ

โดยสมาคมฯ ได้เชิญวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในด้านที่เกี่ยวข้องกับการเป็นนักกีฬาทีมชาติมาให้ความรู้แก่นักกีฬาที่เข้าร่วมโครงการ และยังแต่งตั้งให้อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย (7 เซียน) ที่ประสบความสำเร็จทั้งในด้านกีฬาเป็นเลิศและกีฬาอาชีพ รวมทั้งผู้ฝึกสอนกีฬาวอลเลย์บอลที่มีความรู้และประสบการณ์สูงมาเป็นผู้ฝึกสอนประจำโครงการ เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้ ตลอดจนการสร้างแรงบันดาลและเสริมสร้างทัศนคติในการเป็นนักกีฬาที่ดีให้กับนักกีฬา เพื่อให้มีองค์ความรู้ในการพัฒนาทักษะและสมรรถภาพของตนเองให้เป็นไปอย่างทันสมัยและถูกต้อง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเองต่อไป

นอกจากนี้ ในช่วง 2 วันสุดท้าย ยังมีกิจกรรมการให้ความรู้และเสริมสร้างอุดมการณ์โอลิมปิค ให้กับนักกีฬาที่เข้าร่วมโครงการฯ โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจาก สถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเป็นการส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งทางร่างกาย จิตใจและจิตวิญญาณด้วยคุณค่าของโอลิมปิค 3 ประการ นั่นคือความยอดเยี่ยม (Excellence) มิตรภาพ (Friendship) และการเคารพให้เกียรติซึ่งกันและกัน (Respect)

ในส่วนของผู้เข้าร่วมโครงการ เป็นนักกีฬาวอลเลย์บอลระดับเยาวชน อายุ 14-16 ปี แบ่งเป็นชาย 16 คน และหญิง 16 คน คน รวม 32 คน ที่ได้รับการคัดเลือกโดยสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลฯ โดยให้สิทธิโรงเรียนที่ได้อันดับ 1 และ 2 ในการแข่งขันรายการ ยู-14 และยู-16 รอบคัดเลือกระดับภาคและรอบชิงชนะเลิศ ปี 2566-2567 ให้ส่งนักกีฬาที่มีทักษะพื้นฐานกีฬาวอลเลย์บอลที่ดีที่สุด และมีสมรรถภาพทางกายสมบูรณ์แข็งแรง โรงเรียนละ 1 คน โดยโครงการจะมีการอบรมทั้งเชิงทฤษฎี จัดการบรรยายให้องค์ความรู้เกี่ยวกับการเป็นนักกีฬาทีมชาติทุกๆ ด้าน และการอบรมเชิงปฏิบัติ จัดการฝึกปฏิบัติเพื่อพัฒนาทักษะและองค์ความรู้โดยมีวิทยากรหรือผู้ฝึกสอนเป็นผู้ควบคุมดูแล พร้อมทั้งการประเมินผลนักกีฬาในโครงการ

สำหรับในวันที่ 2 ต.ค. ภาคเช้าที่ห้องบรรยาย สำนักบริหารคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้มีกิจกรรมโดยวิทยากรจากสถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย และเสวนาเรื่อง “กำเนิดของโอลิมปิกเกมส์” โดย ดร.นิพัทธ์ อึ้งปกรณ์แก้ว และ ผศ.ดร.สุริยัน สมพงษ์ กรรมการฝ่ายวิชาการและวิจัย สถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย และหัวข้ออะไรเป็นอะไรในสัญลักษณ์ของโอลิมปิก โดย ผศ.ดร.อานนท์ วันลา จากนั้นภาคบ่าย ที่ยิมเนเซียม โรงเรียนสาธิต ม.เกษตรศาสตร์ มีกิจกรรม “มินิโอลิมปิกเกมส์” โดย คณะวิทยากรและผู้ช่วยวิทยากร และเล่าสู่กันฟัง เรื่อง “ทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21” โดย ดร.พงษ์ศักดิ์ สวัสดิเกียรติ รองผู้อำนวยการสถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย

ส่วนวันที่ 3 ต.ค. เริ่มเวลา 08.30 น. ที่ห้องบรรยาย สำนักบริหารคอมพิวเตอร์ ม.เกษตรศาสตร์ มีบรรยายทำความรู้จักกับคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และสถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย โดย รศ.ดร.สุพิตร สมาหิโต ต่อด้วยสาระที่ต้องรู้เกียวกับสารต้องห้ามทางการกีฬา โดย ดร.ธนวุฒิ แสงบุญ ผู้เชี่ยวชาญด้านสารต้องห้ามทางการกีฬา และบรรยายทำไมต้องมวยไทยในสถานศึกษา มวยไทยจะไปโอลิมปิกจริงหรือ? โดย รศ.ดร.ต่อศักดิ์ แก้วจรัสวิไล นักวิชาการ ผู้ช่วยอธิการบดี ม.เกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ส่วนช่วงบ่าย บรรยายการบาดเจ็บและการฟื้นฟูภายหลังการบาดเจ็บ โดย ดร.กภ.อำพร ศรียาภัย คณบดีคณะวิทยาศาสตร์การกีฬา ม.เกษตรศาสตร์ กรรมการและเลขานุการ สถาบันวิทยาการโอลิมปิคไทย

นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการยูธ สปอร์ต ลีดเดอร์ เทรนนิ่งแคมป์ เป็นโครงการสำหรับนักกีฬาวอลเลย์บอลระดับเยาวชนที่มีศักยภาพพร้อมก้าวสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติอย่างมีคุณภาพ โดยหวังให้มีเยาวชนจากโครงการอย่างน้อยร้อยละ 20 ได้ติดทีมชาติไทยต่อไป.