เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.ต.วาที อัศวุตมางกุร ผู้บังคับการกองพิสูจน์หลักฐานกลาง (ผบก.พฐก.) กล่าวว่า สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีเกิดเหตุไฟไหม้รถบัสทัศนศึกษาของนักเรียนโรงเรียนวัดเขาพระยาสังฆาราม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี ที่บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต หน้าอนุสรณ์สถาน จ.ปทุมธานี ว่าขณะนี้สามารถนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้แล้ว 5 ราย แต่ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้ เนื่องจากสภาพศพถูกไฟไหม้เกรียม ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างทยอยค้นหาเพื่อนำร่างออกจากรถคันดังกล่าว ซึ่งยังไม่สามารถสรุปจำนวนที่ชัดเจนได้ โดยร่างที่นำออกจากรถได้แล้ว ก็จะทยอยนำส่งมาที่นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อทำการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล

“ส่วนการตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานต่างๆ ขณะนี้ยังไม่สามารถทำได้ เนื่องจากต้องรอให้พนักงานสอบสวนเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุก่อน โดยเฉพาะต้องนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาให้ได้ก่อน จากนั้นพิสูจน์หลักฐาน (พฐ.) ก็จะเข้าไปทำการตรวจสภาพรถ และการติดตั้งระบบเชื้อเพลิง เพื่อนำมาประกอบหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป” ผบก.พฐก. กล่าว

พล.ต.ต.สุพิไชย ลิ่มศิวะวงศ์ ผู้บังคับการสถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการผ่าพิสูจน์เบื้องต้น ทราบว่าสภาพศพถูกไฟไหม้เกรียมทำให้ยากต่อการตรวจพิสูจน์ ทางทีมแพทย์จึงเน้นไปที่การตรวจเลือด เนื้อเยื่อ กระดูก เนื่องจากสิ่งเหล่านี้สามารถเก็บดีเอ็นเอเพื่อตรวจเทียบเคียงกับญาติ โดยตัวอย่างดีเอ็นเอที่เก็บจากเลือด จะทราบผลได้ภายใน 1 วัน แต่หากเป็นเนื้อเยื่อจะทราบภายใน 3 วัน ส่วนกระดูกจะทราบใน 7 วัน ดังนั้นญาติที่จะมาเก็บดีเอ็นเอ ขอให้เป็นญาติสายตรง เช่น พ่อแม่ หรือพี่น้องสายเลือดเดียวกัน เพื่อความรวดเร็วในการตรวจพิสูจน์

นอกจากนี้ทางนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ได้ประสานกระทรวงสาธารณสุขนำทีมช่วยเหลือเยียวยาจิตในภาวะวิกฤติหรือ MCATT มาประจำที่ศูนย์ปฏิบัติการฯ เพื่อพูดคุยเยียวยาจิตใจกับผู้ปกครอง หรือญาติที่มาติดตามความคืบหน้า โดยจัดห้องประชุมชั้น 3 ไว้รองรับ พร้อมย้ำว่านิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ มีความพร้อมทั้งอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือและทีมแพทย์ในกรณีเกิดเหตุสถานการณ์ฉุกเฉินแบบนี้

สำหรับ ผู้ปกครองหรือญาติที่ต้องการติดต่อขอข้อมูลหรือปรึกษาสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ 0-2207-6108 ต่อ 1101 ตลอด 24 ชั่วโมง