สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 1 ต.ค. ว่า ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย กล่าวเนื่องในโอกาสครบรอบ 2 ปี ที่รัฐบาลมอสโกผนวกดินแดนในภูมิภาคทางตะวันออกของยูเครน คือ โดเนตสก์ ลูฮันสก์ เคียร์ซอน และซาโปริชเชีย ว่า “ความเป็นจริงอยู่ข้างรัสเซีย ซึ่งจะบรรลุทุกเป้าหมาย” พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลมอสโกพยายามมาตลอด ที่จะคลี่คลายความขัดแย้งอย่างสันติ

ขณะเดียวกัน ปูตินเน้นย้ำ “ความชอบธรรม” ของการส่งทหารเข้าไปปฏิบัติการในยูเครนว่า “เพื่อปกป้องพลเมืองที่พูดภาษารัสเซียจากรัฐบาลเผด็จการนีโอนาซี” หมายถึง รัฐบาลยูเครนของประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี และกล่าวต่อไปว่า “ผู้ปกครองเผด็จการนีโอนาซี” ต้องการพรากสิทธิของชาวรัสเซียในพื้นที่

ทั้งนี้ เซเลนสกีกล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าโลกผ่านพ้นยุคสมัยของการยึดครองดินแดน และการอยู่ภายใต้อำนาจของจักรวรรดิมานานมากแล้ว ดังนั้น แนวคิดแบบนี้จะไม่มีทางใช้กับยูเครนได้ พร้อมทั้งวิจารณ์ “เจตนาที่แท้จริง” ของจีนและบราซิล ซึ่งเป็นแกนนำของ “พันธมิตรโลกใต้” ที่ยังคงเรียกร้องให้ยูเครนเจรจากับรัสเซีย โดยมีแนวโน้มว่า รัฐบาลเคียฟอาจต้องสละดินแดนบางส่วนให้แก่รัฐบาลมอสโก.

เครดิตภาพ : AFP