จากกรณีสาวแชร์ประสบการณ์ซื้อจี้ทองไอ้ไข่ และดอกไม้ทองคำจากร้านออนไลน์ที่มีใบเซอร์ทิฟิเคต และนำไปขายที่ร้านทอง สุดท้ายกลับขายไม่ได้ ซึ่งทางร้านทองจึงได้ฝากเตือนประชาชนว่า ไม่ควรซื้อทองออนไลน์ แนะถ้าจะซื้อทอง มาซื้อที่ร้านทองดีกว่า จะได้เห็นสินค้า ที่สามารถจับต้องและมีใบรับประกันจากทางร้าน ซึ่งหลังจากที่คลิปวิดีโอดังกล่าวถูกเผยแพร่ไป จึงกลายเป็นประเด็นดราม่าและถูกวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ว่าร้านทองดังกล่าวนั้น ขายทองปลอมจริงหรือไม่ กระทั่งต่อมาเจ้าของร้านได้ออกมาโต้กลับ ปมซื้อทองเจ้าดัง พอเอาไปขายร้านไม่รับซื้อ พร้อมกล่าวว่า “ไม่ต้องมาปั่น ถ้าคิดว่าไม่คุ้ม ก็ไม่ต้องซื้อ!”

โดยเรื่องราวที่เกิดขึ้น ทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ อย่า่ง “แม่ตั๊ก” และ “ป๋าเบียร์” และผู้เสียหายจากการซื้อทองออนไลน์ ที่นำทองไปขายไม่ได้หลายคน ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านทางรายการ “โหนกระแส” ทางช่อง 3 ซึ่งภายหลังปรากฏว่า มีลูกค้าต้องการนำทองไปขายคืนจำนวนมาก แต่ไม่มีร้านทองที่ไหนรับซื้อได้ หลังจากจบรายการดังกล่าว ก็มีดรามาอีกครั้ง เมื่อ “แม่ตั๊ก” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ยืนยันว่าตนไม่ได้ขายทองปลอม แต่ใครที่ทำให้เกิดความเสียหาย ก็อาจจะต้องพิจารณาดำเนินคดี เพื่อปกป้องสิทธิของตัวเอง และยืนยันจะรับซื้อทองที่ซื้อไปจากทางร้านคืน

โดย ลูกค้าที่ซื้อทองจากร้านดังกล่าว ได้แห่ไปขายคืนทองคำที่ซื้อมาจากร้านดังกล่าว ซึ่งลูกค้าได้นำทองเข้าไปขายคืนอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ เป็นลูกค้าที่นำปี่เซียะ และสร้อยทองมาขาย พร้อมนำของแถมมาด้วย ก็จะได้รับเงินคืนเต็มจำนวน แต่ก็มีคนที่นำปี่เซียะมาขายคืน แต่ไม่ได้นำของแถมมา ก็จะได้เงินคืนไปไม่ครบ และขณะเดียวกันทางด้านผู้เสียหายหลายคน ก็ไม่ได้นำทองมาขายคืนให้กับทางร้านทองดังกล่าว จึงทำให้มีผู้เสียหายหลายรายคนรวมตัวกัน เพื่อแจ้งความกับตำรวจ ปคบ. เเละเอาผิดข้อหาฉ้อโกงฯ และข้อหาที่เกี่ยวข้อง เชื่อว่าถูกหลอกขายทองคำไม่ได้มาตรฐาน

นอกจากนี้ ยังได้มีการส่งหนังสือเรียก “แม่ตั๊ก” เพื่อเข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริงแล้ว แต่มีตัวแทนแจ้งเข้ามาขอเลื่อนนัด โดยผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ได้เดินทางมายังบ้านของแม่ตั๊ก ภายในซอยรามอินทรา 65 เป็นตัวแทนมาส่งหนังสือเรียกเข้าให้ข้อมูลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ส่งหนังสือเรียกครั้งแรก ไปเมื่อวันพฤหัสบดี (26 ก.ย.) ที่ผ่านมา โดยในครั้งนี้เป็นหนังสือเรียกครั้งที่ 2 เป็นการเชิญบุคคลที่ตกเป็นข่าวทั้งสองคน เป็นผู้ชายกับผู้หญิง ซึ่งเป็นกรรมการของบริษัท ก่อนจะมีเหตุขัดข้องและแจ้งขอเลื่อน นอกจากนี้ ยังมีการเชิญบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยเป็นหนังสือเชิญครั้งแรก ซึ่งเป็นการเชิญตามภูมิลำเนาของผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อความเป็นธรรมของทุกฝ่าย สำหรับหนังสือเรียกถูกส่งถึงผู้มีรายชื่อตั้งแต่ครั้งแรก ที่หน้าร้านทองซึ่งเป็นที่ตั้งของที่ทำการบริษัท โดยการส่งหนังสือเรียกครั้งนี้ จะเรียกให้พบในวันที่ 4 ต.ค. หากไม่ไปตามหนังสือเรียก ก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท ซึ่งนี่เป็นแค่ข้อหาขัดหนังสือเรียกของเจ้าพนักงาน

ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม เกี่ยวกับคดีที่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่า ถูกทั้งสองหลอกขายทองคำออนไลน์ จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้นให้กับทนายความส่วนตัวของแม่ตั๊ก ได้รับทราบ ก่อนจะขออนุญาตเข้าทำการตรวจค้นภายในบ้าน ซึ่งภายหลังการเข้าตรวจค้นกว่า 1 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปคบ. ได้จับกุมนางสาวกรกนก สุวรรณบุตร และป๋าเบียร์ นายกานต์พล เรืองอร่าม ไปกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค โดยทั้งคู่มีสีหน้าเรียบเฉย อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตสีขาว ไม่สวมกุญแจมือ โดยป๋าเบียร์เดินนำหน้ามาก่อน ก่อนขึ้นรถเจ้าหน้าที่ตำรวจและนั่งฝั่งขวา และตามมาด้วยตัวของแม่ตั๊ก ที่นั่งฝั่งซ้าย และไม่ตอบคำถามสื่อมวลชนใดๆ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมทั้ง 2 คน ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน, ร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค, ร่วมกันเจตนาก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิด สภาพ คุณภาพ ปริมาณ หรือสาระสำคัญประการอื่นอันเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ไม่ว่าจะเป็นของตนเองหรือผู้อื่น โฆษณาหรือใช้ฉลากที่มีข้อความอันเป็นเท็จ หรือข้อควรรู้อยู่แล้วว่าอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจทองคำ ถึงปริมาณความบริสุทธิ์จะออกผลภายในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นพนักงานสอบสวน คัดค้านการประกันตัว ทำให้ในคืนนี้ทั้งคู่ต้องนอนห้องควบคุมผู้ต้องหา จากนั้นในช่วงเช้าวันที่ 1 ต.ค. 67 เจ้าหน้าที่จะนำตัวทั้ง 2 คน ไปฝากขังต่อศาล

ขอบคุณภาพ : Kornkanok Suwanbu