เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่กองทัพเรือ พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ให้สัมภาษณ์หลังพิธีรับ-ส่งหน้าที่ ผบ.ทร. ว่า สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตนเป็นผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งตำแหน่งนี้ต้องดูแลกองทัพเรือ เป็นภาระที่หนักอึ้ง เมื่อมีคำสั่งให้ทำหน้าที่ ตนก็ต้องพร้อมทำหน้าที่

เมื่อถามว่า พล.ร.อ.อะดุง บอกให้ ผบ.ทร. ทำหน้าที่ให้เต็มที่เพื่อลบคำสบประมาท พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า เป็นธรรมชาติของทุกคน ไม่ว่าตนหรือใครที่ขึ้นมาตำแหน่งนี้ ก็ต้องทำหน้าที่อย่างเต็มที่ ไม่มีใครสามารถย่อหย่อนได้เลย เพราะความมั่นคงเป็นเรื่องสำคัญของชาติ ส่วนหลักคิดที่ทำให้ตนเดินหน้าต่อไปได้ นั่นก็คือการคิดบวก ไม่เอาเรื่อง เนกกาทีฟ มาใส่ใจ รับฟังทุกเรื่องและหาข้อมูลมาวิเคราะห์ก่อนตัดสินใจ ซึ่งก็เชื่อว่าทุกคนมีหลักคิดเดียวกัน

เมื่อถามต่อว่า สำหรับแนวทางผลักดันโครงการจัดหาเรือดำน้ำนั้น ผบ.ทร. กล่าวว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้หารือกับ พลร.อ.อะดุง ในเบื้องต้น แต่คงจะให้คณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำมาชี้แจงในรายละเอียดอีกครั้ง แต่ในภาพรวมได้เสนอไปที่กระทรวงกลาโหมแล้ว ซึ่งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ขอเวลาศึกษา ตนก็จะขอท่านเข้าไปชี้แจง ว่าประเด็น ที่เกี่ยวข้องมีอะไรบ้าง และท่านรัฐมนตรีหนักใจเรื่องอะไร ก็จะเข้าไปชี้แจงทั้งหมด ซึ่งเรือดำน้ำเป็นเรื่องที่สำคัญอยู่แล้ว เพราะเป็นกำลังรบที่สำคัญที่เราวางแผนไว้ ทั้งหมดอยู่ในแผนพัฒนากำลังรบของกองทัพเรือ

“ถ้ารัฐบาลบอกว่าเอาไว้ก่อนความสามารถของเราก็จะถดถอยลง ถ้ารัฐบาลยอมรับได้ รวมถึงฝ่ายค้านยอมรับได้ กองทัพเรือก็ไม่สามารถไปดึงดันอะไร ทุกคนต้องยอมรับร่วมกันว่า ถ้าเราไม่มีสิ่งนี้ จะทำอะไรไม่ได้บ้างเท่านั้นเอง” ผบ.ทร. กล่าว

เมื่อถามว่าในฐานะที่จบจากโรงเรียนนายเรือเยอรมนี และจบหลักสูตรดำน้ำ จะแก้ปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ และอนาคตจะซื้อเรือดำน้ำเยอรมนี หรือไม่ พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า ต้องค่อยๆ ก้าวเดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ โดยดูว่าท่านรัฐมนตรีสงสัยเรื่องอะไรก่อน ตนก็จะเข้าไปชี้แจง ซึ่งเรือดำน้ำ เป็นเรื่องที่ต้องเดินหน้าชัดเจนอยู่แล้ว

เมื่อถามถึงการสร้างความกลมเกลียวและสามัคคีในกองทัพเรือในช่วงหนึ่งปีต่อจากนี้ ผบ.ทร. กล่าวว่า กองทัพเรือมีกำลังพลหลากหลายเหล่า เราก็พยามกลมกลืน ประสานการทำงานร่วมกันทุกคน และทุกคนรู้หน้าที่ได้อย่างชัดเจน ก็ไม่เห็นต้องกังวลอะไร ส่วนความคิดเห็นที่แตกต่างกันนั้น ก็เป็นเรื่องที่ดี และตนยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นนำ และต้องนำข้อมูลหลักการวิเคราะห์ เพื่อหาทางออกและความเห็นแตกต่างไม่ใช่เรื่องผิดปกติ ทุกประเทศต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์กันทั้งนั้น ในสภาก็ยังวิพากษ์วิจารณ์กัน

เมื่อถามย้ำว่า มีการมองว่าเป็นนักเรียนนอกจะเป็นปัญหาในการทำงานหรือไม่  พล.ร.อ.จิรพล กล่าวว่า ก็อย่าไปคิดมากในเรื่องนี้ และไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้.