เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 30 ก.ย. ที่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เมืองทองธานี นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อายุ 63 ปี อดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าขอเอกสารเดินทางเข้าออกประเทศของ พล.อ.ประวิตร วงสุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กรณีขาดลาการประชุมสภา ถึง 84 ครั้ง จาก 95 ครั้ง

นายพร้อมพงศ์ เปิดเผยว่า ตนเดินทางมาในวันนี้ เพื่อขอเอกสารการเดินทางเข้าออกประเทศของ พล.อ.ประวิตร เนื่องจากพล.อ.ประวิตร ได้ขาดลาการประชุมสภา โดยข้อมูลจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่วันที่ 3 ก.ค. 66 จนถึงปัจจุบัน พบว่า พล.อ.ประวิตร ได้ลาประชุมโดยอ้างว่าติดภารกิจถึง 84 ครั้ง จากวันประชุมทั้งหมด 95 ครั้ง และในวันประชุมสภาล่าสุด ก็ยังไม่พบว่า พล.อ.ประวิตร เข้ามาทำหน้าที่ สส. เข้าร่วมประชุมสภา แต่อย่างใด ซึ่งการเดินทางมาขอเอกสารในวันนี้ ตนมาใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญมาตรา 41 (2) เสนอเรื่องราวร้องทุกข์ต่อหน่วยงานรัฐ และขอปฏิบัติหน้าที่ปวงชนชาวไทยตามมาตรา 50(10) รวมถึงขอใช้สิทธิตาม พรบ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540 เพื่อขอข้อมูลของ พล.อ.ประวิตร ที่ขาดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งน่าจะใช้การลาเป็นฉากบังหน้า โดยแจ้งลาว่าเดินทางไปต่างประเทศในช่วงเดือน มี.ค. 67 รวม 3 วัน, เดือน มิ.ย. รวม 3 วัน, เดือน ก.ค. และ ส.ค. อีก 2 วัน รวมเป็นทั้งหมด 8 วัน โดยขอทราบว่ามีการเดินทางไปจริงหรือไม่ และหากเดินทางไปต่างประเทศจริงเดินทางอย่างไร สายการบินอะไร ค่าใช้จ่ายเป็นไปตามระเบียบของทางราชการหรือไม่

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ตนได้ข้อมูลจากผู้ร้องซึ่งเป็นพลเมืองดีว่าการเดินทางของ พล.อ.ประวิตร น่าจะไม่ชอบด้วยกฎหมายของ ป.ป.ช. จึงต้องดำเนินการตรวจสอบว่าเดินทางอย่างไร จะเป็นการบินแบบเหมาลำ หรือที่เรียกว่าบินหรูอยู่สบายหรือไม่ และมีใครน่าจะร่วมสนับสนุนหรือตัวการร่วมให้กระทำความผิดหรือไม่ แล้วจากข้อมูลที่ผู้ร้องมาว่าการเดินทางไปต่างประเทศของ พล.อ.ประวิตร นั้น ที่มีการลาประชุมสภาน่าจะเป็น กิจกรรมและพฤติกรรมที่ไม่ใช่เพื่อประโยชน์สาธารณะและผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน แต่เป็นผลประโยชน์ส่วนตนมากกว่า ทั้งนี้ตนขอยืนยันว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง ไม่ใช่การดิสเครดิต หรือหวังผลทางการเมือง เหมือนที่ฝ่ายของ พล.อ.ประวิตร ออกมากล่าวหาตน แต่เป็นการตรวจสอบเพื่อประโยชน์สาธารณะ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน จนกว่า พล.อ.ประวิตร จะแสดงความรับผิดชอบโดยเข้าประชุมสภา หรือลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ ไม่เช่นนั้นตนจะเดินหน้าตรวจสอบต่อไป

เบื้องต้นหากข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สอดคล้องกับข้อมูลตามที่พลเมืองดีร้องไว้ ตนก็จะดำเนินการตามกฎหมาย โดยจะยื่นต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ พล.อ.ประวิตร ต่อไป ซึ่งหากข้อมูลออกมาไวตนก็จะดำเนินการภายในวันศุกร์นี้

ขณะที่ พ.ต.อ.นรบดี ศศิประภา ผกก.ฝ่ายบริการการศึกษาสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเข้า กล่าวว่า ในเบื้องต้นจะรับหนังสือร้องเรียนไว้เพื่อเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป.