สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 28 ก.ย. ว่า ประเทศซึ่งยากจนที่สุดในซีกโลกตะวันตก กำลังเผชิญกับสังคมที่ไร้สิ้นระเบียบ หลังกลุ่มอาชญากรเข้ายึดครองกรุงปอร์โตแปรงซ์ ส่งผลให้ระบบรักษาความปลอดภัยและสาธารณสุขล่มสลาย และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,600 รายแล้ว นับตั้งแต่ต้นปีนี้

ขณะเดียวกัน สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (โอเอชซีเอชอาร์) รายงานว่า ช่วงครึ่งแรกของปี 2567 มีประชาชนราว 600,000 คน ต้องอพยพออกจากบ้านเรือน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บจากความรุนแรงของกลุ่มอาชญากร อย่างน้อย 1,280 คน ซึ่งรวมถึงผู้หญิงอย่างน้อย 295 คน และเด็กอย่างน้อย 63 คน

นอกจากนั้น ประชาชนอีกอย่างน้อย 89 คน ในจำนวนนี้รวมเด็กอย่างน้อย 25 คน ถูกลักพาตัวและกักขังเพื่อเรียกค่าไถ่ โดยกลุ่มอาชญากร และนับตั้งแต่เดือน ม.ค. ที่ผ่านมา มีการบันทึกจำนวนผู้เสียชีวิตจากความรุนแรงดังกล่าวในเฮติ อย่างน้อย 3,661 ราย

รายงานของโอเอชซีเอชอาร์ระบุว่า เหยื่อบางรายถูกยิงโดยการสุ่ม, บางรายถูกประหารชีวิตกลางวันแสก ๆ, บางรายถูกทำร้ายด้วยมีดพร้าและถูกเผา เนื่องจากกลุ่มอาชญากรกล่าวหาว่า ประชาชนกลุ่มนี้ให้ข้อมูลกับทางการ หรือต่อต้านกิจกรรมของแก๊ง และกลุ่มอาชญากรยังใช้ความรุนแรงทางเพศกับผู้หญิงด้วย

ประธานาธิบดีวิลเลียม รูโต ผู้นำเคนยา กล่าวต่อที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เตรียมส่งกองกำลังสนับสนุนความมั่นคงข้ามชาติ (เอ็มเอสเอส) ไปประจำการที่เฮติเพิ่มอีก 2,500 นาย ในเดือน ม.ค. ปีหน้า หลังส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปประจำการแล้วประมาณ 430 นาย รวมถึงทหารจากจาเมกาและเบลีซ ประมาณ 20 นาย

ผู้นำเคนยาระบุว่า เคนยาและประเทศอื่น ๆ ในแอฟริกาและแคริบเบียน พร้อมส่งกองกำลัง แต่ยังขาดแคลนอุปกรณ์, ระบบโลจิสติกส์ และเงินทุน

“ผมยินดีกับความก้าวหน้าเชิงบวกล่าสุด อาทิ การจัดตั้งรัฐสภาเฉพาะกาล, รัฐบาลชั่วคราวชุดใหม่ และการส่งกองกำลังเอ็มเอสเอสชุดแรกไปประจำการ” นายโฟลเคอร์ เติร์ก ข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กล่าว

ทั้งนี้ เติร์กเรียกร้องให้เฮติ ปฏิรูปตำรวจและสถาบันแห่งอื่นของรัฐ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการทุจริตคอร์รัปชันเรื้อรัง รวมถึงระบบตุลาการ ขณะที่ประชาคมระหว่างประเทศ ควรดำเนินมาตรการห้ามขายอาวุธ, ห้ามเดินทาง และอายัดทรัพย์สิน เพื่อหยุดยั้งความรุนแรงจากกลุ่มอาชญากร.

เครดิตภาพ : AFP