สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 25 ก.ย. ว่า นายอ็องตวน อาร์ม็อง รมว.การคลังฝรั่งเศสคนปัจจุบัน กล่าวว่า เขาจะพูดคุยกับผู้มีบทบาททางเศรษฐกิจ รวมถึงสหภาพและองค์กรนายจ้างหลายแห่ง เพื่อพยายามลดการใช้จ่ายเกินตัวของรัฐบาล

อนึ่ง การขาดดุลของฝรั่งเศส คาดว่าจะสูงถึง 5.6% ของผลผลิตของประเทศในปีนี้ หรือมากกว่านั้น ซึ่งคิดเป็นเกือบสองเท่าของขีดจำกัดของสหภาพยุโรป (อียู)

“นอกเหนือจากปีที่เกิดขึ้นวิกฤติครั้งเดียว จำนวนหนึ่งหรือสองปี ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา เรามีการขาดดุลครั้งเลวร้ายครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ ซึ่งในระดับนั้น ถือเป็นสถานการณ์ที่ร้ายแรงมาก” อาร์ม็อง กล่าวเพิ่มเติม

รัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของนายมิเชล บาร์นิเยร์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสคนใหม่ ต้องเผชิญกับความท้าทายในรัฐสภา ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยคณะรัฐมนตรีต้องพยายามจัดทำงบประมาณปี 2568 พร้อมขั้นตอนการแก้ไขการคลังสาธารณะ ผ่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งแบ่งออกเป็นประมาณ 3 ฝ่าย หลังการเลือกตั้งก่อนกำหนด เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ บาร์นิเยร์ ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ว่าเขาได้นำการปรับขึ้นภาษี “แบบกำหนดเป้าหมาย” สำหรับคนรวยหรือบริษัทขนาดใหญ่บางแห่ง เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการแก้ไขปัญหา ซึ่งเขาคาดว่าจะนำเสนอร่างงบประมาณในช่วงต้นเดือนหน้า

อย่างไรก็ตาม การขึ้นภาษี ถือเป็นการเบี่ยงเบนจากนโยบายในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ของรัฐบาลที่นำโดยประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส ซึ่งพยายามกระตุ้นกิจกรรมด้วยการลดภาษีสำหรับบริษัท, ที่อยู่อาศัย, ความมั่งคั่ง และอื่น ๆ.

เครดิตภาพ : AFP