“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (เอซีเอฟ) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า สมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ ได้ส่งนักกีฬาจักรยานประเภทถนนเข้าร่วมชิงชัยศึกจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์โลก UCI World Championships 2024 ที่นครซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 23-29 ก.ย.นี้ จำนวน 5 คน ประกอบด้วย รุ่นประชาชนหญิง “แพร” ส.อ.หญิง เพชรดารินทร์ สมราช นักปั่นทีมชาติไทยชุดโอลิมปิกเกมส์ 2024 / รุ่นประชาชนชาย นายตุลธร โสสลาม / รุ่นเยาวชนชาย นายธนภัทร สกุลแตร และ นายอภิสิทธิ์ สุพรรณ์ / รุ่นเยาวชนหญิง น.ส.ณัฐชา สงเคน โดยคณะนักปั่นไทยได้เดินทางไปถึงนครซูริกเมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่ผ่านมา
พลเอกเดชา กล่าวว่า นักปั่นทั้ง 5 คน จะลงแข่งขันในรายการโรดเรซทั้งหมด นอกจากนี้ในช่วงเวลาดังกล่าว ตนเองพร้อมคณะก็มีกำหนดการจะเข้าร่วมประชุมใหญ่สหพันธ์จักรยานนานาชาติ ประจำปี 2024 หรือ UCI Congress 2024 ซึ่งจะจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุมซูริก ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ และการสัมมนาร่วมชาติสมาชิกยูซีไอ วันที่ 28 ก.ย. ที่ศูนย์ประชุมซูริกเช่นเดียวกัน
“ในระหว่างการประชุมยูซีไอ คองเกรส ก็เป็นโอกาสอันดีที่ผมจะได้พบและหารือกับคีย์แมนของวงการจักรยานโลก รวมถึงจักรยานเอเชียที่จะเดินทางไปร่วมการประชุมคองเกรสกันถ้วนหน้า ในประเด็นความร่วมมือในการพัฒนาวงการกีฬาจักรยาน โดยเฉพาะการหารือกับ มร.เดวิด แลปปาร์เตียน ประธานยูซีไอ ถึงกำหนดการเยือนเมืองไทยระหว่างการแข่งขันจักรยานประเภทถนนชิงแชมป์เอเชีย 2025 ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 7-16 ก.พ. 2568 ที่จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดพิจิตร รวมทั้งการประชุมใหญ่สามัญสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย 2025 หรือ ACC Congress 2025 ที่จะมีขึ้นที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 6 ก.ย. 2568 ที่ทาง มร.แลปปาร์เตียน ตอบรับมาก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมาร่วมเป็นเกียรติอย่างแน่นอน” พลเอกเดชา กล่าว
ขณะเดียวกัน พลเอกเดชา กล่าวอีกว่า ในระหว่างเข้าร่วมประชุมยูซีไอ คองเกรส และสัมมนาร่วมชาติสมาชิกยูซีไอ ตนก็มีกำหนดการหารือร่วมกับ มร.จาเควส แลนดรี้ ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกจักรยานโลก World Cycling Center (WCC) ในประเด็นความร่วมมือระหว่างสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทยฯ กับศูนย์ฝึกฯ และความร่วมมือระหว่างสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน ACF ที่ตนเองเป็นประธาน กับศูนย์ฝึกฯ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาและยกระดับมาตรฐานกีฬาจักรยาน ทั้งในประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนให้ทัดเทียมกับภูมิภาคอื่น ๆ ของเอเชียและของโลกไปพร้อม ๆ กัน
“สำหรับภูมิภาคอาเซียน ยังมีประเทศที่พยายามจะพัฒนากีฬาจักรยานแต่ยังไม่สามารถเดินหน้าได้อย่างเต็มที่อีกหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นบรูไน, กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา และติมอร์ เลสเต ในขณะที่ชาติที่มีการพัฒนากีฬาจักรยานไม่ว่าจะเป็นไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์ และเวียดนาม ต่างก็มีอุปสรรคในการพัฒนาด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยเหตุปัจจัยที่แตกต่างกันไป เชื่อว่าการหารือกับคีย์แมนของยูซีไอจะช่วยทำให้ยูซีไอได้เข้าใจข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและเดินหน้าร่วมกับเอซีเอฟในการพัฒนายกระดับกีฬาจักรยานของภูมิภาคอาเซียนไปในทิศทางที่ถูกต้องที่สุดต่อไป” พลเอกเดชา กล่าวในตอนท้าย.
