เมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีต รมว.คลัง ประธานกรรมการด้านวิชาการ พร้อมด้วย นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ กรรมการยุทธศาสตร์พรรค แถลงผลประชุมพรรค ถึงบทบาทของการตั้งศูนย์นโยบายวิชาการ ว่า นอกจากการวางนโยบายให้กับพรรค ซึ่งจะเป็นนโยบายตอบโจทย์ของประเทศ และแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนแล้ว คาดหวังจะให้เป็นศูนย์ที่มีนักวิชาการภายนอก แม้จะไม่ได้เป็นสมาชิก แต่เป็นคนที่สนใจปัญหาบ้านเมืองเข้ามาร่วมการทำงาน โดยตั้งเป้าให้ศูนย์ดังกล่าว เป็นแหล่งที่ให้ประชาชน ส่งเรื่องส่งข้อมูลมาตรวจสอบรัฐบาลหรือส่งข้อมูลมาจากทำเป็นนโยบาย

นายธีระชัย กล่าวว่า บทบาทสำคัญของศูนย์นี้ทำหน้าที่เป็นรัฐบาลเงา ในการติดตามดำเนินการของรัฐบาลปัจจุบัน วิพากษ์วิจารณ์ให้ข้อเสนอแนะ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนต่อรัฐบาล และมีประเด็นที่ศูนย์มองว่าจะนำเสนอให้ประชาชนรับทราบ 3 เรื่อง 1. ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลกับแบงก์ชาติ 2. โครงการดิจิทัลวอลเล็ต และ 3. กองทุนวายุภักษ์

“ความสัมพันธ์รัฐบาลกับแบงก์ชาติ มีข้อกังวลใจที่ดูจะเป็นลักษณะเลวลง ทำให้เกิดปัญหาว่า หากไม่สามารถบริหารความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลและแบงก์ชาติ จะทำให้ทั่วโลกขาดความเชื่อมั่นระบบการเมืองไทย ทางศูนย์ฯ ไม่ได้เห็นว่าทางแบงก์ชาติถูกต้องทุกอย่าง โดยผลกระทบปัจจุบันเรื่องค่าเงินบาท ก็เป็นเรื่องน่ากังวล เพราะกระทบต่อการส่งออกและรายได้เกษตรกร” นายธีระชัย กล่าว

นายธีระชัย กล่าวว่า หากรัฐบาลด้อยค่าแบงก์ชาติ จะทำให้ส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถูกมองว่ารัฐมนตรีขาดทักษะในการประสานงานกับแบงก์ชาติ ซึ่งมีกระแสข่าวว่าจะมีการตั้งประธานแบงก์ชาติ อาจเป็นนักการเมืองคนหนึ่ง และมีกระแสข่าวว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะนัดคุยกับผู้ว่าแบงก์ชาติ เพื่อกำหนดเป้าหมายเงินเฟ้อยกให้สูงขึ้น และหากรัฐบาลยังไม่รักษาวินัยการคลังอย่างเคร่งครัด แต่เพิ่มหนี้สาธารณะ ไปหนุนด้านอุปโภคบริโภคในลักษณะไฟไหม้ฟาง จึงเสนอแนะว่า หากรัฐบาลจะทำงานกับแบงก์ชาติให้เกิดผล ให้วางเรื่องนโยบายการเงินเอาไว้ก่อน แต่ไปเน้นนโยบายด้านสถาบันการเมือง เพราะเห็นว่ารัฐบาลมีอย่างน้อยที่ต้องคุยกับแบงก์ชาติคือ 1. การปรับโครงสร้างหนี้ 2. หารือกับแบงก์ชาติเรื่องการตั้งธนาคารท้องถิ่น 3. ยกระดับอัตราหักภาษี ณ ที่จ่าย.