จากกรณีที่นายสุรินทร์ ลิสอน หรือ ต้น อายุ 40 ปี อดีตเจ้าหน้าที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ตำแหน่งนักวิชาการอบรมและฝึกวิชาชีพ (ด้านพ่อบ้าน) ร้องทุกข์มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม สอบผ่านการคัดเลือกเข้ารับตำแหน่งผู้คุม ณ เรือนจำกลางนครปฐม แต่กลับถูกปฏิเสธเข้ารับราชการ โดยทางกรมราชทัณฑ์ชี้แจง วุฒิการศึกษาไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ ทั้ง ๆ ที่คุณสมบัติการศึกษาตรงตามประกาศรับสมัคร ซ้ำยังไม่ได้รับการเยียวยาเพราะต้องลาออกจากที่ทำงานเก่าเพื่อมารายงานตัว และต้องเลี้ยงดูลูกน้อยอีก 2 คน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าวันที่ 24 ก.ย. ที่กระทรวงยุติธรรม ว่าที่ ร.ต.รภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสิน รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พานายสุรินทร์ ลิสอน หรือ ต้น อดีตเจ้าหน้าที่กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ภายหลังจากเมื่อวันที่ 23 ก.ย. กรมราชทัณฑ์ ได้ออกเอกสารชี้แจงถึงสาเหตุที่ปฏิเสธเข้าบรรจุรับราชการ ตำแหน่งเจ้าพนักงานราชทัณฑ์ปฏิบัติงาน เนื่องจากวุฒิการศึกษาที่นายสุรินทร์ยื่นนั้นไม่ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.พ.

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เปิดเผยภายหลังรับฟังรายละเอียดเนื้อหาว่า กรมราชทัณฑ์ได้มีการเปิดรับสมัครพนักงานราชทัณฑ์ เป็นผู้คุมผู้ต้องขัง ซึ่งจริง ๆ มีตำแหน่งว่าง 700 รายทั่วประเทศ และที่ประกาศรับสมัครไปจะรับคนที่จบวุฒิการศึกษาประกาศนียบัตรวิชาชีพเทคนิค (ปวท.) หรืออนุปริญญาหลักสูตร 2 ปี หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) หรืออนุปริญญาหลักสูตร 3 ปี ในทุกสาขาวิชาเท่านั้น หรือคนที่จบการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายปีที่ 6 (ม.6) แล้วไปเรียนต่ออีก 2 ปี ดังนั้น พอเปิดรับสมัครนายสุรินทร์ (ผู้ร้อง) ก็ได้มีการไปดูคุณสมบัติส่วนตัวกับทางวิทยาลัยที่ตนเองศึกษาจบ คือ วิทยาลัยพลศึกษาสมุทรสาคร ซึ่งพบว่าครบถ้วน แต่ต่อมาวิทยาลัยแห่งนี้ได้มีการขยับฐานะเป็นมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตสมุทรสาคร ทำให้เป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนที่เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์มองว่า ผู้สมัครสอบขาดคุณสมบัติตามหลักฐานที่สมัคร แต่นายสุรินทร์ก็ได้ตรวจสอบว่าครบถ้วนถูกต้องแล้ว

อย่างไรก็ตาม ข้าราชการของกระทรวงยุติธรรม ไม่ว่ากรมใดก็ถือเป็นข้าราชการพลเรือน เมื่อมีปัญหาเรื่องความไม่ชัดเจนก็ต้องถามสำนักงาน ก.พ. จึงทำให้แนวทางการแก้ไขปัญหาในตอนนี้ ตนจะรับเรื่องราวไว้และจะมอบหมายให้กรมราชทัณฑ์ไปเร่งดำเนินการสอบถามกับสำนักงาน ก.พ. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะนายสุรินทร์ ยืนยันว่า วุฒิที่สมัครสอบเป็นวุฒิอนุปริญญา และยังมีการเรียนต่อจนจบปริญญาตรีในวิทยาศาสตร์ทางการกีฬา ซึ่งที่จริงแล้ววุฒิของนายสุรินทร์นั้น สูงกว่าวุฒิในตำแหน่งดังกล่าว อีกทั้งกฎระเบียบของสำนักงาน ก.พ. ต้องการให้คนที่มีวุฒิตามประกาศมาสมัครสอบ มิเช่นนั้นคนที่มีวุฒิการศึกษาสูงก็จะมาแย่งตำแหน่งงานของคนวุฒิการศึกษาน้อยได้ ทั้งนี้ ตนพร้อมจะให้ความเป็นธรรมกับนายสุรินทร์ แต่คงไม่ได้รับปาก 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเราต้องทำอย่างถูกกฎหมายและกฎระเบียบ

พ.ต.อ.ทวี กล่าวต่อว่า คงต้องให้สำนักงาน ก.พ. รีบตอบกลับมาว่า วุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญาของนายสุรินทร์ที่ใช้สมัครสอบจากเมื่อครั้งสถานศึกษาเป็นวิทยาลัย ก่อนมีการยกระดับฐานะเป็นมหาวิทยาลัยนั้น สำนักงาน ก.พ. ได้มีการรับรองหรือไม่ อย่างไร เพราะส่วนใหญ่วิทยาลัยทั่วประเทศล้วนมีการยกฐานะเป็นมหาวิทยาลัยไปหมดแล้ว เพื่อเราจะใช้หลักฐานเอกสารตรงนี้ยืนยันต่อ ก.พ. ได้ว่าจะรับนายสุรินทร์เข้ารับตำแหน่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ (ผู้คุม) ได้หรือไม่ เพราะถ้า ก.พ. ตอบกลับว่านายสุรินทร์ ได้สำเร็จหลักสูตรการศึกษาอนุปริญญาหลักสูตร 2 ปี ก็ถือว่าครบองค์ประกอบ จึงขอให้กระบวนการเกิดการตรวจสอบให้ชัดเจนก่อน นอกจากนี้ ตนทราบล่าสุดว่าทางสำนักงาน ก.พ. จะมี ว.17 ในการรับสมัครข้าราชการพลเรือน ซึ่ง ว.17 เป็นการรวมวุฒิการศึกษาทั้งระดับอนุปริญญาและวุฒิเทียบเท่า ซึ่งจะต้องให้กรมราชทัณฑ์สอบถามประเด็นนี้กับ ก.พ. ด้วย

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังขาดอยู่ประมาณ 500 ตำแหน่ง เพราะตามประกาศรับสมัครเราต้องการตำแหน่งผู้คุมรวม 700 ตำแหน่ง ซึ่งเรือนจำทั่วประเทศมี 143 แห่ง ดังนั้น ถ้า ก.พ. รับรอง ก็จะสามารถบรรจุนายสุรินทร์เข้ารับตำแหน่งได้ เพื่อให้การเข้ารับราชการของนายสุรินทร์ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ มั่นใจว่านายสุรินทร์จะไม่เสียสิทธิ ก็อยากให้ได้รับคำตอบยืนยันจากสำนักงาน ก.พ. ไม่เกิน 15 วัน

ด้านนายสุรินทร์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่ได้พูดคุยกับ รมว.ยุติธรรม ตนรู้สึกมีความหวังขึ้นมาเยอะพอสมควรจากที่เคยเสียความรู้สึก ท่านให้คำตอบได้ชัดเจนและชี้แจงกระจ่าง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ที่เราเคยติดต่อพูดคุยก็พูดคุยดี อยากให้เราเข้าทำงาน แต่มันติดแค่เรื่องคำว่าอนุปริญญา นอกจากนี้ที่ตนใช้วุฒิการศึกษาระดับอนุปริญญามาสมัครในตำแหน่งที่ได้เงินเดือนน้อยก็เพราะคาดหวังในเรื่องของสวัสดิการ และการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายรักษาพยาบาลให้บุตรหรือคู่สมรสและครอบครัวได้ การเป็นข้าราชการก็จะได้สิทธิประโยชน์ครอบคลุมกว่า

หากหลังจากนี้ตนยังได้รับการยืนยันจากสำนักงาน ก.พ. ว่าไม่สามารถบรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ได้ ทางเลือกสุดท้าย คือ อาจจะพิจารณาการฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพื่อทวงคืนความยุติธรรมของตนเอง เพราะตนหวังเพียงเรียกร้องความเป็นธรรมให้มีอาชีพมีการงานทำเลี้ยงดูครอบครัวได้.