เมื่อวันที่ 23 ก.ย. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เปิดเผยถึงการพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ ในวันที่ 1 ต.ค. 2567 ว่า ล่าสุด นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้ทำหนังสือถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้รับทราบแล้วว่า นายเมธี สุภาพงษ์ ตัวแทนธนาคารแห่งประเทศไทย เกษียณอายุราชการ ไม่ได้เป็นตัวแทนแล้ว จึงต้องรอให้แบงก์ชาติส่งหนังสือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร และส่งผู้แทนคนใหม่เข้ามา เพื่อแต่งตั้งใหม่ ทำให้ไม่สามารถเปิดประชุมได้ เพราะสัดส่วนคณะกรรมการค่าจ้างมีไม่ครบ 15 คน ตามกฎหมาย จึงมีความจำเป็นต้องเลื่อนการประชุมคณะกรรมการค่าจ้าง ในวันที่ 24 ก.ย. นี้ ออกไปโดยไม่มีกำหนด

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนต้องขอโทษที่ไม่สามารถทำตามที่สัญญาได้ว่าจะปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาททั่วประเทศ วันที่ 1 ต.ค. 2567 นี้ แต่ยืนยัน จะเดินหน้าการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ แม้รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ประกาศเป็นนโยบาย เพราะตระหนักดีถึงความลำบากของผู้ใช้แรงงาน แต่รัฐบาลจะต้องสร้างความสมดุลระหว่างนายจ้างกับลูกจ้าง หาค่าจ้างในอัตราที่เหมาะสมเพื่อให้ทุกฝ่ายเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งเป็นเวลา 12 ปีแล้ว หลังจากมีการปรับขึ้นค่าจ้าง 300 บาททั่วประเทศ ในปี 2555 จนถึงปัจจุบัน ค่าจ้างก็ยังขึ้นไม่ถึง 100 บาท หรือเฉลี่ยปีละ 8 บาท กระทรวงแรงงานไม่อยากกดค่าจ้างให้ต่ำ ในขณะที่ค่าครองชีพกำลังพุ่งสูง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคณะกรรมการค่าจ้าง ประกอบด้วย 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายลูกจ้าง และฝ่ายนายจ้าง ฝ่ายละ 5 คน รวม 15 คน ซึ่งภาครัฐประกอบด้วย กระทรวงแรงงาน 2 คน และหน่วยงานภายนอก อีก 3 คน ได้แก่ กระทรวงพาณิชย์ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย โดยต้องใช้เสียงโหวต 2 ใน 3 จึงจะสามารถลงมติได้ ส่วนกรณีที่จะเปิดประชุม หากมีคณะกรรมการค่าจ้างเพียง 14 คน นายพิพัฒน์ ยืนยันว่า เปิดประชุมไม่ได้ เพราะสัดส่วนคณะกรรมการมีไม่ครบ 15 คน ตามกฎหมาย