เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 67 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ซึ่งมีการพิจารณาให้ความเห็นชอบการตั้ง สว. ให้เป็นกรรมาธิการ (กมธ.) ในคณะ กมธ.สามัญ ประจำวุฒิสภา จำนวน 21 คณะ

ทั้งนี้ ในช่วงหนึ่งของการเสนอบัญชีรายชื่อ สว. ที่จะดำรงตำแหน่งเป็น กมธ. คณะต่างๆ ปรากฏว่า นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สว. อภิปรายตั้งคำถามถึงการจัดสรร สว. ลง กมธ.ต่างๆ ที่ไม่ตรงกับคุณสมบัติ เช่น นายเศรณี อนิลบล สว.กลุ่มเกษตร และนางกัลยา ใหญ่ประสาน สว.กลุ่มเกษตร ที่ไม่มีชื่ออยู่ใน กมธ.เกษตรและสหกรณ์ และเรียกร้องให้ชี้แจง รวมถึงการส่งชื่อให้ดำรงตำแหน่ง กมธ.ต่างๆ ที่พบว่ามี จำนวน 100 คน ส่งให้กับประธานวุฒิสภา และเลขาธิการ แทนส่งกับเจ้าหน้าที่ตามที่ตกลงกันไว้

ทั้งนี้ พล.อ.สวัสดิ์ ทัศนา สว. ในฐานะประธาน กมธ.สรรหา ชี้แจงว่า กรณีของนายเศรณี และนางกัลยา นั้นเป็นเอกสิทธิ์ของ สว. ตามข้อบังคับให้ดำรงตำแหน่งได้คนละไม่เกิน 2 คณะ จึงเป็นสิทธิของ สว. ที่ต้องพิจารณา ส่วนกรณีที่มีจำนวน สว. ที่ลง กมธ. เกินจำนวนสูงสุด ต้องมีการเจรจา เกิน 11 คณะ เจรจาให้ปรับเปลี่ยน เหลือ 9 คณะ มีวิธีตามข้อบังคับ คือ เมื่อไกล่เกลี่ยแล้วยังเกิน ให้จับสลากหรือเลือกกันเอง การดำเนินการขณะนั้นเป็นเรื่องของแต่ละ กมธ. ที่จะตัดสินใจใช้วิธีใด ทั้ง กมธ.เกษตรฯ หรือ กมธ.ท่องเที่ยว ที่หลุดออกไป มาจากการเลือกกันเอง ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงและข้อบังคับ

พล.อ.สวัสดิ์ ชี้แจงต่อกรณีการส่งความจำนงของ สว. ต่อการเข้าเป็น กมธ. ว่า สามารถส่งที่เจ้าหน้าที่ หรือ ประธานวุฒิสภา หรือเลขาฯ วุฒิสภา ก็ได้ เพื่ออำนวยความสะดวก ส่วนที่ยื่นต่อประธานวุฒิสภา เกินเวลา ยอมรับว่าไม่มีการลงเวลาเป็นหลักฐาน แต่รับรองว่าการยื่นไม่เกินเวลา 16.30 น. ของวันที่ 12 ก.ย. ขณะที่ใน กมธ.ต่างประเทศ ที่มี สว. ลงชื่อเกินจำนวนนั้นเป็นเอกสิทธิ์ ทั้งนี้มีหลายคณะที่เกิน เช่น กมธ.เกษตรฯ กมธ.ท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ในความสนใจ ความสมัครใจของ สว. ทั้งนี้ กมธ.สรรหา มีหน้าที่คือ สว.197 คน ต้องยึดหลักเกณฑ์ จำนวน กมธ. 9-18 คน

ทั้งนี้ นางกัลยา ใหญ่ประสาน สว.กลุ่มเกษตรกร อภิปรายว่า ตนติดใจกระบวนการเลือกแม้จะเป็นไปตามข้อบังคับ แต่ความตั้งใจของตนที่เข้ามาเป็น สว. เพื่อยกระดับเกษตรอินทรีย์ให้เป็นเศรษฐกิจทางรอด จะมีโอกาสเข้าไปทำงานใน กมธ. ได้หรือไม่

ซึ่ง พล.อ.สวัสดิ์ ชี้แจงว่า หลัง สว. อนุมัติ 21 คณะแล้ว ในวันที่ 24 ก.ย. จะเลือกตำแหน่งต่างๆ และมีโอกาสอีกครั้งหลังจากนั้น

ขณะที่นายเศรณี อนิลบล สว.กลุ่มเกษตร อภิปรายว่า กมธ.สรรหา ไม่ได้ทำตามเอกสาร เพราะไม่เคยให้ผู้จะเป็น กมธ.เกษตรฯ ได้แถลงวิสัยทัศน์ ว่า ใครคือตัวจริง ตัวปลอม หรือ “อีแอบ” ทั้งนี้มีหลายคนที่ไม่ชัดเจนไปลงสมัครกลุ่มอื่น แต่ใช้สิทธิลง กมธ.เกษตรฯ

“จะเขียนทำไมว่าจะพิจารณาตามคุณสมบัติ หากจะผิดแค่ไม่ได้เป็นพวกเดียวกับท่าน เราคือเสียงส่วนน้อย ท่านจะเอาใครหรือไม่แล้วแต่ท่าน ผมได้ทำหน้าที่ สว. โดยสมบูรณ์ เอะอะอะไรก็ใช้การโหวต จะโหวตชนะอย่างไร กลัวหรือว่าผมอยู่ใน กมธ.เกษตรฯ แล้วจะเด่น จะดัง ประชาชนจะอยู่ดีกินดี แม้ผมไม่อยู่ใน กมธ.เกษตรฯ ไม่เดือดร้อน แต่ขอใช้สิทธิว่า ประธาน กมธ. พิจารณาไม่ได้ทำตามที่เขียนไว้ในเอกสาร” นายเศรณี กล่าว

ทำให้ พล.อ.สวัสดิ์ ชี้แจงยืนยันว่า กมธ.การเกษตรฯ ไม่ได้แถลงวิสัยทัศน์ แต่มีบางกลุ่มที่เสนอให้แถลงวิสัยทัศน์ ดังนั้นเป็นเรื่องของแต่ละ กมธ. ส่วนประธานสรรหาไม่มีสิทธิบอกว่าทำอะไรหรือไม่ทำอะไร ท่านเศรณีจะได้ตามที่ต้องการหรือไม่ ผมรับประกันไม่ได้ เพราะไม่ใช่ท่านคนเดียว บางท่านตั้งใจจะทำ แต่ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจได้ พวกเรา 200 คน ตั้งใจเข้ามาทำงานจริง แต่หลังจากนี้มี กมธ. ที่ยังว่าง บางคนได้คณะเดียว หากท้วงเรื่องข้อบังคับ หากไม่ทำตาม ผมก็ทำตามใจตัวเองไม่ได้เช่นกัน  

โดยนายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สว. ในฐานะเลขานุการ กมธ.สรรหา ชี้แจงตอนหนึ่งว่า “กมธ.เกษตรฯ ไม่มีนายเศรณี กมธ.เกษตรฯ สามารถทำงานได้ดี”

ทำให้ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว.กลุ่มสื่อมวลชน ลุกขึ้นประท้วงว่า คำพูดของนายวุฒิชาติ เป็นการด้อยค่านายเศรณีในที่ประชุม ถ้าตนก็จะพูดใหม่ ตนบอกว่า วุฒิสภาแห่งนี้จะอยู่ได้และอยู่ได้ด้วยดีด้วย ถ้าไม่มีนายวุฒิชาติ ก็สามารถทำงานได้ดี นายวุฒิชาติ จะว่าอย่างไร ตนคิดว่าคำพูดเหล่นี้ไม่ควรออกมาจากปากเพื่อน สว. ด้วยกัน ทั้งนี้การเลือก กมธ. ที่ไม่ตรงกับคุณสมบัติ ผิดฝา ผิดตัว ไม่ตรงกับสายงาน ประชาชนจะได้ประโยชน์อะไรจาก กมธ. 21 คณะ ตนคิดว่ามันเป็นความอัปลักษณ์ของการคัดสรร ดังนั้นตนมองว่าควรพิจารณา กมธ. บนฐานอาชีพ ก็ขอฝากไว้ด้วยประชาชนกำลังดูอยู่กับการกระทำเหล่านี้

ทำให้นายวุฒิชาติ ตอบโต้กลับว่า “ผมไม่ได้ด้อยค่าใคร แต่ดูคำพูดก่อนหน้านี้ ก่อนที่กลัวว่าไม่มีเศรณีจะเด่น จะดัง หากวุฒิสภาวันนี้ไม่มีวุฒิชาติ ผมยินดีพิจารณาตัวเอง แต่จะเอาอะไรเป็นเครื่องพิสูจน์”

จากนั้นที่ประชุมได้อภิปรายต่อกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งพบว่ามี สว. หลุดตำแหน่งในหลาย กมธ. โดยฝ่ายเสียงส่วนใหญ่อภิปรายให้ที่ประชุมเดินหน้ารับรองรายชื่อ กมธ. ทั้ง 21 คณะ เพราะกระบวนการสรรหานั้นจบลงแล้ว ทำให้ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 ที่สลับมาทำหน้าที่ประธานการประชุม ให้ดำเนินการประชุมต่อ.