เมื่อก้าวเท้าสู่ย่านธุรกิจของกรุงนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา หนึ่งในเมืองใหญ่และแหล่งท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของโลก ไม่มีใครแปลกใจที่ได้เห็นตึกระฟ้าเต็มไปหมด 

แต่ยังมีอาคารสูงแห่งหนึ่งที่ให้บรรยากาศแปลกประหลาดและดูลึกลับท่ามกลางอาคารสูงอื่น ๆ เพราะรูปลักษณ์ของมัน

อาคารสูง 29 ชั้นแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนามของ “อาคารเลขที่ 33 ถนนโธมัส” รูปทรงภายนอกของมันเหมือนจับเอาแท่งคอนกรีตสูงตระหง่านมาตั้งไว้ การออกแบบในสไตล์บรูทัลลิสม์ที่เน้นเส้นสายแบบเรขาคณิต ทำให้ตัวอาคารให้บรรยากาศดุดัน มืดทะมึน เต็มไปด้วยความลึกลับและอาจจะดูน่าขนลุกสำหรับบางคน เพราะนอกเหนือจากประตูทางเข้าด้านหน้าแล้ว อาคารแห่งนี้ไม่มีหน้าต่างเลยแม้แต่บานเดียว 

เนื่องจากไม่มีใครสามารถมองเห็นภายในอาคารได้ อีกทั้งไม่มีการเปิดให้สาธารณชนเข้าไปชมพื้นที่ภายใน จึงทำให้ผู้ตั้งทฤษฎีต่าง ๆ นานาถึงจุดประสงค์ของอาคารแห่งนี้ ว่ามีไว้เพื่อทำอะไรกันแน่ และบางกลุ่มก็ไปไกลถึงขั้นตั้งสมมติฐานว่าเป็นสถานที่ที่รัฐบาลอเมริกันใช้เก็บซากมนุษย์ต่างดาวเอาไว้ ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็เชื่อว่าเป็นอาคารที่รัฐบาลอเมริกันใช้เป็นศูนย์ปฏิบัติการสอดแนมหรือทำงานด้านสายลับ

เมื่อปีที่แล้ว มีชายคนหนึ่งที่อ้างตัวว่าเป็นหนึ่งในทีมงานที่เคยเข้าไปทำงานในอาคารแห่งนี้ ยินยอมให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเดลีเมลของอังกฤษ แต่ไม่อนุญาตให้เปิดเผยนาม เขาเล่าถึงสิ่งที่เขาและลูกชายซึ่งอยู่ในทีมด้วย ได้รู้เห็นระหว่างรับงานติดตั้งอุปกรณ์บางอย่างภายในอาคารเมื่อประมาณค.ศ. 2000 

ชายนิรนามเล่าว่าเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปในบางพื้นที่ของอาคารไร้หน้าต่างแห่งนี้ ซึ่งสร้างขึ้นตั้งแต่ปีค.ศ. 1974 และมีหลายจุดที่เป็นพื้นที่ห้ามเข้าโดยเด็ดขาดและโดนสั่งห้ามตั้งคำถามถึงพื้นที่ต้องห้ามเหล่านี้

งานของชายนิรนามคือการติดตั้งสายไฟและท่อที่ส่งของเหลวและก๊าซที่สามารถรองรับแรงดันสูงภายในอาคาร ระหว่างนั้นพวกเขาบังเอิญพบเห็นเอกสาร “ลับเฉพาะ” หลายฉบับที่ดูเหมือนจะเป็นคู่มือบอกข้อควรปฏิบัติเมื่ออุปกรณ์ในอาคารตกอยู่ในสถานการณ์ที่โดนโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า อาคารเลขที่ 33 แห่งนี้เป็นอาคารที่สามารถดำรงอยู่ได้ด้วยตัวเองหากเกิดหายนะจากอาวุธนิวเคลียร์เป็นเวลานานถึง 2 สัปดาห์ ภายในชั้นใต้ดินของอาคารมีข้าวของจำเป็นในการดำรงชีวิตเพียงพอสำหรับคน 1,500 คน 

แต่ประวัติและเรื่องราวอย่างเป็นทางการของอาคารเลขที่ 33 ก็คือ มันถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นศูนย์ปฏิบัติการของบริษัทเอทีแอนด์ที ภายในอาคารติดตั้งอุปกรณ์เชื่อมต่อการสื่อสารสำหรับโทรศัพท์แบบใช้สาย ดังนั้น ชื่อเดิมของมันคืออาคาร AT&T Long Lines 

พูดแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือ ตึกสูงแห่งนี้เป็นสถานที่ที่มีไว้เพื่อติดตั้งอุปกรณ์เพื่อการต่อสายโทรศัพท์ทางไกลและใช้งานมาจนถึงปีค.ศ. 1999 บริษัทก็ย้ายฐานปฏิบัติการส่วนนี้ออกไป แต่หลังจากที่เกิดวินาศกรรม 9/11 ที่ผู้ก่อการร้ายจี้เครื่องบินพุ่งชนอาคารแฝดเวิลด์เทรด เอทีแอนด์ทีก็นำอุปกรณ์บางส่วนที่ได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ครั้งนั้นมาเก็บไว้ที่นี่

ปัจจุบันนี้ เอทีแอนด์ทีก็ยังมีชื่อว่าเป็นเจ้าของอาคารแห่งนี้อยู่ โดยมีข้อมูลจารายงานข่าวอ้างว่าบริษัทใช้งานอาคารแห่งนี้เพื่อเก็บอุปกรณ์สำคัญบางชิ้นและใช้พื้นที่บางส่วนเป็นศูนย์ปฏิบัติงานด้านการรักษาความปลอดภัยระดับสูง

ที่มา : dailymail.co.uk, nypost.com, ladbible.com

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES