เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 2567 ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมสภา เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ภาษีสรรพสามิต เมื่อวันที่ 18 ก.ย. และจะลงมติในสัปดาห์หน้า จะมีแนวทางโหวตคว่ำร่างหรือไม่ ว่า ต้องเรียนกับประชาชนว่า เรื่องสุราก้าวหน้า ภาษีสรรพสามิต ต้องอาศัยข้อเท็จจริง ซึ่งในการพิจารณามีอยู่ 3 ร่าง ได้แก่ ร่างของพรรคเพื่อไทย ร่างของพรรคประชาชน ร่างของพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่เมื่อไปดูหลักการการเสนอร่างของพรรคประชาชนนั้น ระบุว่า “ถ้าไม่ขายก็สามารถต้มดื่มกันเองได้ แจกจ่ายกันเองในหมู่บ้านทั่วไปได้” ซึ่งเรามองว่าหลักการเช่นนี้จะทำให้ลำบาก หากมีการเสนอเข้าไปแล้วจะขัดกับหลักการกับที่เราตั้งไว้ ซึ่งสุราทุกอย่างจะต้องมีการควบคุม อาจจะลดขนาดเงื่อนไขในการตั้ง เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนขนาดเล็ก สามารถสร้างได้ ตั้งได้ ผลิตได้ แต่ทุกอย่างต้องอยู่ในการควบคุมของกฎหมาย ไม่ใช่ว่าเสรีเลย จึงมีปัญหาเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 18 ก.ย. ภายหลังมีการเจรจากับพรรคประชาชน ทางพรรคมาขอว่าอยากให้ห้อยรวมร่างของเขาไปด้วย ฉะนั้น เราจึงถอยกลับมาว่าเพราะเราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล 

“ไม่ใช่มาขอพรรคเพื่อไทย แล้วจะให้ผมบอกว่าได้หรือไม่ได้เลย แต่ในเมื่อหลักการของคุณขัดกับหลักการ ก็จะลำบากอยู่ ฉะนั้น เราต้องดูพรรคอื่นด้วยว่าคิดอย่างไรในเรื่องนี้” นายวิสุทธิ์ กล่าวและว่า นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร สส.กทม. พรรคประชาชน หากจะพูดอะไรควรพูดในสภา จะได้มีบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ฉะนั้น เรายืนยันในหลักการของเรา ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการตรากฎหมาย ไม่ใช่ไปแก้หลักการที่ยังไม่เคยมี

เมื่อถามว่า จะถูกกล่าวหาว่าตั้งธงคว่ำร่างหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เราไม่ได้คิดตั้งธง ถ้าหากคุณเขียนหลักการว่าให้ขออนุญาตเฉพาะคนที่ทำเป็นร้านค้าหรือจำหน่าย แต่ประชาชนทั่วไปสามารถต้มเหล้ากินได้หมด อย่างนี้รับไม่ได้  

“ประชาชนเสี่ยงตายมากี่คน ใครรับผิดชอบได้บ้าง แล้วยังป่วยอีกหลาย 10 คน ถ้าทำไปแล้วไม่มีใครควบคุม ใครอยากต้มก็ต้ม ใครอยากแจกก็แจก นี่มันไม่ใช่ประเทศไทยแล้ว คงเมากันทั้งประเทศ ที่เรารับไม่ได้คือประเด็นนี้ ไม่ใช่จะไปคว่ำร่างของพรรคก้าวไกล (ประชาชนในปัจจุบัน) แต่เขาเอง ถึงแม้ไม่ได้นำร่างเข้ามา ก็เป็นกรรมาธิการร่วมกันได้อยู่ ยังทำงานร่วมกันได้ จะไปออกข่าวว่าเราคว่ำอะไร ต้องดูข้อเท็จจริงก่อน” นายวิสุทธิ์ กล่าว

นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริง เพื่อไม่ให้เสียหายมาถึงพรรคเพื่อไทยว่า พรรคเพื่อไทยไม่สนับสนุน แต่เราสนับสนุนให้รายย่อยมีโอกาส ลดเงื่อนไขลงมา แต่ไม่ใช่ว่าไม่ต้องขออนุญาตเลย ไม่ได้ขายต้มแจกได้หมด ไม่เช่นนั้น เมาทั้งตำบล ทั้งอำเภอ พร้อมย้ำว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับองค์ประชุม อีกทั้งภายหลังจากการประชุม เรามานั่งปรึกษาหารือคุยกัน ฝ่ายค้านรัฐบาลไม่ได้มีอะไร แค่ความแตกต่างทางความคิด เป็นความสวยงามของประชาธิปไตย เขามาปรึกษาว่าห้อยไปด้วยได้หรือไม่

เมื่อถามว่า เบื้องต้นพรรคประชาชนยอมหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า รอให้เขามาตอบ ในการประชุมสภา วันที่ 25 ก.ย. ก็ยังมีเวลา ไม่ได้ไปคว่ำร่างใคร คนที่ติดตามเรื่องนี้ก็ขอให้เข้าใจถูกต้อง

เมื่อถามว่า นายเท่าพิภพ ใช้คำพูดว่าเราต่อเรือมาแล้ว เหมือนเป็นการปล้น นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า กฎหมายไม่มีใครปล้นใคร ทุกพรรคหวังดีต่อพี่น้องประชาชน เราก็อยากให้ SMEs เกิดขึ้นในประเทศไทย หรือธุรกิจอะไรเกิดขึ้นในประเทศไทย “ไม่ได้ปล้นใคร ถ้าไปพูดแบบนั้นก็มีปัญหา”

เมื่อถามย้ำว่า จะทำให้วิปรัฐบาลและฝ่ายค้านคุยกันยากขึ้นหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่ยาก เจอที่ไหนก็คุยกันได้ รุ่นใหม่ รุ่นเก่า ก็ทำงานร่วมกันได้ ดูตามหลักการที่ถูกต้องการ และไม่ต้องไปโจมตีกัน การใช้วาทกรรมทางการเมือง จะทำให้งานไม่เดินหน้า ปล้นอะไรไม่มี.