สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ว่า ในรายงานฉบับใหม่ ยูเอ็นเตือนว่า เป้าหมายที่กำหนดไว้ในข้อตกลงปารีส ฉบับปี 2558 ซึ่งต้องการจำกัดอุณหภูมิโลก ไม่ให้สูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส เหนือระดับก่อนยุคอุตสาหกรรม ดูเหมือนจะไม่บรรลุผลสำเร็จ และทำให้เกิดผลกระทบร้ายแรงตามมา

รายงาน “ยูไนเต็ด อิน ไซเอนซ์” ของหลายหน่วยงานในยูเอ็น ซึ่งได้รับการประสานงานโดยองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (ดับเบิลยูเอ็มโอ) เน้นย้ำว่า ความเข้มข้นของก๊าซเรือนกระจก พุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้อุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มขึ้นในอนาคต 

“วิทยาศาสตร์มีความชัดเจน พวกเรายังห่างไกลจากการบรรลุเป้าหมายด้านสภาพอากาศของโลก” นางเซเลสต์ เซาโล เลขาธิการของดับเบิลยูเอ็มโอ กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเมืองเจนีวา

กระนั้น เซาโลเน้นย้ำว่า “โลกยังมีความหวัง” ซึ่งรายงานชี้ให้เห็นถึงความก้าวหน้าในวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ และสังคมศาสตร์ รวมถึงนวัตกรรมทางเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเอไอ และการเรียนรู้ของเครื่อง (เอ็มแอล) ที่อาจเป็น “เทคโนโลยีสร้างการเปลี่ยนแปลง” ได้

ด้านเซาโลยืนกรานว่า เทคโนโลยีข้างต้นสามารถเป็นตัวพลิกสถานการณ์ สำหรับการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ, การลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ขณะที่รายงานของยูเอ็น ระบุเสริมว่า เทคโนโลยีเหล่านี้ สามารถปฏิวัติการพยากรณ์อากาศ และจัดหาเครื่องมือที่ดีกว่าให้กับสังคม เพื่อตอบสนองและปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ดับเบิลยูเอ็มโอยอมรับว่า เทคโนโลยีใหม่อาจเป็นอันตรายต่อการดำเนินการด้านสภาพอากาศ เนื่องจากการใช้พลังงานปริมาณมหาศาล ซึ่งเซาโล เรียกร้องให้ประเทศต่าง ๆ กำหนดการควบคุม เพื่อทำให้การพัฒนาเหล่านี้ เป็นประโยชน์ต่อประชาคมโลก และหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านลบ.

เครดิตภาพ : AFP