สำนักข่าวซินหัวรายงานจากกรุงแคนเบอร์รา ประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 18 ก.ย.ว่านายเมอร์เรย์ วัตต์ รมว.การจ้างงานและความสัมพันธ์ในที่ทำงาน และนายโทนี เบิร์ก รมว.กิจการภายในของออสเตรเลีย ร่วมกันประกาศแผนการห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์หินปลอม ซึ่งเชื่อมโยงกับโรคซิลิโคซิส (silicosis) หรือโรคปอดจากฝุ่นหิน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2568
รายงานจากเซฟ เวิร์ค ออสเตรเลีย (Safe Work Australia) เมื่อปี 2566 พบว่า ความเสี่ยงของโรคซิลิโคซิสที่เชื่อมโยงกับกระบวนการตัดแผ่นหินเทียม เป็นความเสี่ยงต่อช่างหินที่มิอาจยอมรับได้ โดยโรคซิลิโคซิสเป็นโรคปอดเรื้อรังที่อันตรายถึงชีวิต ซึ่งเกิดจากการสูดดมผลึกซิลิกาปริมาณมาก
ทั้งนี้ เซฟ เวิร์ค ออสเตรเลีย กระตุ้นรัฐบาลออสเตรเลียบังคับใช้คำสั่งห้ามใช้ จัดซื้อ และผลิตผลิตภัณฑ์หินเทียมภายในประเทศเป็นแห่งแรกของโลก ซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
รัฐบาลออสเตรเลียเชื่อมั่นว่า คำสั่งดังกล่าวจะช่วยปกป้องคนงานจากโรคซิลิโคซิสยิ่งขึ้น ขณะที่หลักฐานชี้ชัดว่า การสูดผลึกซิลิการะหว่างทำงานกับหินเทียม อาจนำสู่การป่วยโรคซิลิโคซิสและโรคปอดร้ายแรงอื่น ๆ ซึ่งสร้างหายนะทางสุขภาพแก่คนงานชาวออสเตรเลียและครอบครัว
อนึ่ง งบประมาณกลางสำหรับปีงบประมาณปัจจุบันของออสเตรเลีย ครอบคลุมเงินทุน 32.1 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 724 ล้านบาท) สำหรับกองกำลังป้องกันชายแดนออสเตรเลีย ในการบังคับใช้คำสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์หินปลอม.
ข้อมูล : XINHUA
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES