จากกรณีโลกออนไลน์แชร์คลิปรถบรรทุกของไปช่วยน้ำท่วมที่ จ.เชียงราย โดนเจ้าหน้าที่ด่านชั่งน้ำหนักพยุหะคีรี ต.ม่วงหัก อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ จับกุมในข้อหาใช้ยานพาหนะน้ำหนักเกินอัตราตามที่กฎหมายกำหนดเดินบนทางหลวง โดยเจ้าของรถบรรทุก คือ นายประสิทธิ ปาพรหม อายุ 61 ปี ให้การว่ากำลังจะขับรถคันดังกล่าว นำข้าวสาร อาหารแห้ง เครื่องใช้ จะไปมอบให้ผู้ประสบภัยเหตุน้ำท่วมที่วัดพระธาตุผาเงา อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แต่ยังไปไม่ถึง โดนเจ้าหน้าที่ด่านชั่งน้ำหนักพยุหะคีรี จับกุมส่งดำเนินคดีที่ สภ.พยุหะคีรี เสียก่อนนั้น จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 18 ก.ย. ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถาม นางดุษฎีวรรณ สาโรจน์ เจ้าของคลิปที่กำลังเป็นไวรัล ออกมาเปิดใจว่า ได้ไปเจอลุงประสิทธิที่โรงพัก เพราะเห็นป้ายติดที่รถจะไปช่วยผู้ประสบภัย จึงไปสอบถาม พบว่าโดนเจ้าหน้าที่จับกุมข้อหาน้ำหนักเกิน จึงถ่ายคลิปลงเพื่อขอความช่วยเหลือ พร้อมวอนเจ้าหน้าที่ให้เมตตารถที่ขนของเข้าไปช่วยผู้ประสบภัย

เช่นเดียวกันกับในมุมของเหล่าจิตอาสา ได้ให้ถึงความเห็นกับกรณีดังกล่าวว่า ถ้าหากทำกันตามกฎหมายก็อาจจะผิด แต่ด้วยมนุษยธรรมควรจะให้การช่วยเหลือ เพราะคนกำลังเดือดร้อน น่าจะให้ความเห็นใจ ส่วนข้อกฎหมายก็ต้องว่ากันไปตามกระบวนการ

‘ตำรวจนครสวรรค์’ แจงดราม่า 3 ข้อ ปมข่าวจับรถช่วยน้ำท่วมน้ำหนักเกิน

ต่อมา ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปยัง สภ.พยุหะคีรี เพื่อสอบถามข้อมูลกับ พ.ต.อ.สมบูรณ์ ทองลอย ผกก.สภ.พยุหะคีรี ได้รับการเปิดเผยว่า กรณีการจับรถบรรทุกสิ่งของช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม ของมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ตามที่ปรากฏเรื่องดราม่าบนโลกออนไลน์นั้น ทางตำรวจยืนยันว่าไม่ได้เป็นฝ่ายจับกุม แต่เป็นของเจ้าหน้าที่ของสถานีตรวจสอบน้ำหนักพยุหะคีรี (ขาออก) ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ม่วงหัก อ.พยุหะคีรี จ.นครสวรรค์ เป็นผู้จับ ซึ่งพบว่าเป็นรถบรรทุกหกล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 81-1342 สมุทรสาคร ได้เข้าไปชั่งน้ำหนักที่ด่านแล้วมีการบรรทุกของหนักถึง 18,420 กิโลกรัม ซึ่งเกินกฎหมายกำหนดไว้สำหรับรถประเภทนี้ ไม่ให้เกิน 3,420 กิโลกรัม จึงทำให้ถูกจับก่อนส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.พยุหะคีรี เป็นผู้แจ้งดำเนินคดีตามกฎหมาย

โดยในเบื้องต้น ถูกแจ้งข้อหาใช้ยานพาหนะน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดบนทางหลวง ส่วนการสอบปากคำนายประสิทธิ์ ให้การว่า กำลังขับรถบรรทุกหกล้อที่ถูกจับ นำน้ำดื่ม ข้าวสารอาหารแห้ง และเครื่องนุ่งห่ม ของมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร ที่ได้รับการบริจาคจากประชาชน ไปมอบให้กับผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ จ.เชียงราย โดยเจ้าตัวยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาจะบรรทุกให้เกินกฎหมายกำหนดแต่อย่างใด ซึ่งหลังจากพนักงานสอบสวนผู้ต้องหาจนเสร็จแล้ว จึงได้ปล่อยตัวชั่วคราว และได้ให้ประกันรถบรรทุกไปชั่วคราว ด้วยการช่วยเหลือของทางตำรวจใช้ตำแหน่งช่วยประกัน เพื่อให้คนขับรถ นำรถบรรทุกไปส่งของต่อให้กับผู้ประสบภัยได้ทัน แต่ก็ได้มีการให้นำสิ่งของลงบางส่วนลง เพื่อไม่ให้น้ำหนักเกินตามกฎหมายกำหนด พร้อมกับจัดรถนำทางให้ด้วย

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่สถานีตรวจสอบน้ำหนักพยุหะคีรี (ขาออก) ได้พบนายณรงค์ แย้มพราย พนักงานทางหลวง ประจำสถานี ได้ให้ข้อมูลว่า รถบรรทุก 6 ล้อคันนี้ จู่ๆ ก็ขับเข้ามาชั่งเครื่องวัดน้ำหนักของสถานี เมื่อช่วงเวลา 03.00 น. แล้วพบว่าน้ำหนักเกินกว่าที่กฏหมายกำหนด จึงต้องทำการจับกุม เนื่องจากเครื่องชั่งน้ำหนักของสถานี มีระบบลิงก์กับกรมขนส่งทางบก หากไม่ดำเนินการตามกฎ ก็จะกลายเป็นว่าเจ้าหน้าที่มีความผิดตามมาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อีกทั้งในการตรวจสอบนั้น พบว่ารถบรรทุกหกล้อคันดังกล่าว ขับมาคันเดียวและไม่มีรถนำขบวน รวมถึงไม่มีหนังสือขอนุญาต หรืออนุเคราะห์ใดๆ มีเพียงแค่ป้ายติดที่ด้านหลังเพียงเท่านั้น จึงทำให้ต้องดำเนินการจับส่งตำรวจไปตามหน้าที่

พนักงานทางหลวง ประจำสถานีตรวจสอบน้ำหนักพยุหะคีรี ยังกล่าวแนะนำด้วยว่า อยากให้รถขนบรรทุกที่ขนสิ่งของไปช่วยน้ำท่วม โปรดทำเอกสารหนังสืออนุญาตให้ถูกต้อง และให้มีรถนำขบวนติดตามมาด้วยทุกครั้งจะดีกว่า เนื่องจากทางเราก็ต้องป้องกันการบรรทุกน้ำหนักเกิน และการขนของผิดกฎหมาย ที่อาจฉวยใช้โอกาสตรงนี้ในการขนส่งผิดกฎหมาย.