ตามที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 12 ก.ย.ที่ผ่านมา ตอนหนึ่งระบุว่า “การใช้กัญชาเพื่อการแพทย์ที่สร้างมูลค่าเพิ่มในทางเศรษฐกิจและควบคุมผลกระทบทางสังคม โดยการตรากฎหมาย” นั้น

ล่าสุด วันที่ 18 ก.ย. แหล่งข่าวระดับสูง แจ้งว่า ขณะนี้ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้นำ (ร่าง) พ.ร.บ.กัญชากัญชง พ.ศ. … เปิดรับฟังความคิดเห็นระหว่างวันที่ 16-30 ก.ย. 2567 ผ่านทางเว็บไซต์ระบบกลางทางกฎหมาย https://law.go.th โดยสาระสำคัญของร่างฉบับนี้ อาทิ ให้มีคณะกรรมการกัญชา กัญชง โดย รมว.สาธารณสุข เป็นประธาน มีหน้าที่และอำนาจ เสนอนโยบายและยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการควบคุมและส่งเสริม กัญชา กัญชง และสารสกัด และการคุ้มครองสุขภาพของประชาชน ต่อครม.เพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ, กำหนดมาตรการการส่งเสริม วิจัย พัฒนา การใช้กัญชา กัญชง และสารสกัด ทั้งในด้านการแพทย์ เกษตรกรรม อุตสาหกรรม พาณิชยกรรม และประโยชน์อื่น ๆ

ในการเพาะปลูกกัญชาหรือกัญชง หรือผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่าย กัญชา กัญชง หรือสารสกัด ต้องได้รับใบอนุญาต แต่ไม่ใช้บังคับแก่การจำหน่าย ผลิตหรือส่งออกส่วนของราก กิ่ง ก้าน ใบ ลำต้น หรือเมล็ดของกัญชา หรือกัญชง และการสั่งจ่ายหรือแจกจ่ายกัญชา กัญชง หรือสารสกัด เพื่อการบำบัดรักษาและบรรเทาความเจ็บป่วยของมนุษย์ หรือป้องกันโรค รวมถึงการนำไปใช้เพื่อให้เกิดผลต่อสุขภาพหรือการทำงานของร่างกายให้ดีขึ้น เสริมสร้างโครงสร้างหรือการทำงานของร่างกายหรือลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรคของผู้ประกอบวิชาชีพที่กำหนด

“แม้ช่อดอกกัญชากัญชงจะไม่ได้เป็นยาเสพติดประเภท 5 เช่นเดียวกับราก กิ่ง ก้าน ใบ ลำต้น หรือเมล็ด แต่จะเห็นได้ว่าใน พ.ร.บ.ฉบับนี้จะมีการควบคุมเข้มงวดในส่วนของช่อดอกมากกว่า โดยที่จะต้องขออนุญาตจำหน่าย ผลิตหรือส่งออก ขณะที่ส่วนอื่นๆ นั้นไม่ต้องขออนุญาต” แหล่งข่าว กล่าว และว่า ไม่เพียงต้องได้รับอนุญาตเท่านั้น ในการนำเข้าหรือส่งออกของผู้รับอนุญาตในแต่ละครั้งต้องได้รับใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกเฉพาะคราวด้วย

สำหรับการขอรับใบอนุญาตเพาะปลูกกัญชาหรือกัญชง จะแบ่งตามขนาดพื้นที่เพาะปลูก 3 ขนาด คือ พื้นที่ขนาดเล็ก ไม่เกิน 5 ไร่ พื้นที่ขนาดกลาง เกิน 5 ไร่ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 20 ไร่ และ พื้นที่ขนาดใหญ่ เกิน 20 ไร่ขึ้นไป แต่ไม่เกิน 400 ไร่ ในส่วนของผู้ขอรับใบอนุญาตทั้งเพาะปลูกกัญชาหรือกัญชง หรือผลิต นำเข้า ส่งออก หรือจำหน่าย กัญชา กัญชง หรือสารสกัด ต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย หรือ นิติบุคคลที่มีสัญชาติไทย มีสำนักงานตั้งอยู่ในประเทศไทย หรือเป็นวิสาหกิจชุมชน หรือสภากาชาดไทยหรือหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานในกำกับของรัฐที่มีภารกิจเกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ ยังห้ามโฆษณา หรือทำการสื่อสารการตลาดเกี่ยวกับช่อดอกหรือยางของกัญชา กัญชง หรือสารสกัด หรือเครื่องมือและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการสูบกัญชา ห้ามจำหน่ายกัญชา กัญชง หรือสารสกัดเพื่อการบริโภค ไม่ว่าจะเป็นไปเพื่อประโยชน์ ในทางการค้าหรือให้โดยมีสิ่งตอบแทนหรือผลประโยชน์อื่นใดหรือไม่ก็ตาม แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า20 ปี , สตรีมีครรภ์, สตรีให้นมบุตรและบุคคลอื่นใดตามที่รัฐมนตรีประกาศ  และจะต้องแจ้ง ณ สถานที่จำหน่ายหรือผ่านช่องทางการจำหน่ายอื่น รวมทั้งคำเตือนในการบริโภค

ห้ามจำหน่ายโดยใช้เครื่องจำหน่าย หรือวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์, วิธีการแจก แถม ให้ แลกเปลี่ยนกับสินค้าอื่น หรือเสนอให้สิทธิในการเข้าชมการแข่งขัน การแสดง การให้บริการ การชิงโชค การชิงรางวัล หรือสิทธิประโยชน์อื่นใดเป็นการตอบแทนแก่ผู้ซื้อ รวมถึง ห้ามจำหน่ายในวัดหรือสถานที่สำหรับประกอบพิธีกรรมทางศาสนา, สถานศึกษา, หอพัก, สวนสาธารณะ สวนสัตว์ และสวนสนุกและ สถานที่อื่นตามที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด อีกทั้งห้ามขับขี่ยานพาหนะในขณะมึนเมากัญชา กัญชง สารสกัด หรืออาหาร

ห้ามบริโภคกัญชา กัญชง หรือสารสกัด เว้นแต่เป็นการบริโภค โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1. การบำบัด รักษา และบรรเทาความเจ็บป่วยของมนุษย์ หรือป้องกันโรค รวมถึงการนำไปใช้กับมนุษย์ เพื่อให้เกิดผลต่อสุขภาพหรือการทำงานของร่างกายให้ดีขึ้น เสริมสร้างโครงสร้างหรือการทำงานของร่างกายหรือลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดโรค ภายใต้การกำกับดูแลของแพทย์, ทันตแพทย์, แพทย์แผนไทย, แพทย์แผนไทยประยุกต์, แพทย์แผนจีนหรือหมอพื้นบ้าน 2.การศึกษาวิเคราะห์หรือวิจัยที่ดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่ศึกษาวิจัยหรือจัดการเรียนการสอนสาขาที่เกี่ยวข้อง เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์หรือเภสัชกรรม สภากาชาดไทย หรือสถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่ศึกษาวิจัยและจัดการเรียนการสอนทางการแพทย์หรือเภสัชศาสตร์ 3.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร, ยา, อาหาร, เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์อื่นใดตามที่มีกฎหมายเฉพาะที่บัญญัติไว้

“ร่าง พ.ร.บ.ฉบับเดิมจะระบุไว้ว่า ห้ามบริโภคเพื่อการสันทนาการ แต่ในร่างฉบับนี้ตัดส่วนนั้นออกไป แล้วกำหนดวัตถุประสงค์ในการบริโภคที่ไม่เป็นการผิดกฎหมายแทน เป็นส่วนที่แตกต่างจากร่างเดิมมากที่สุด” แหล่งข่าวกล่าว