เมื่อวันที่ 18 ก.ย. นายเอกภาพ พลชื่อ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ฝ่ายการเมือง) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์อุทกภัยตั้งแต่วันที่ 17 ก.ค.-ปัจจุบัน มีพื้นที่ประสบภัย 43 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อยู่ 16 จังหวัด และกลับเข้าสภาวะปกติแล้ว 27 จังหวัด ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ดำเนินการเร่งสำรวจความเสียหายภาคการเกษตร (ข้อมูล ณ วันที่ 17 ก.ย.) พบว่าด้านพืช มีพื้นที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น ข้าว พืชไร่ พืชผัก และไม้ผลไม้ยืนต้น รวม 948,754.64 ไร่ เกษตรกร 153,565 ราย

ด้านประมง มีพื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น บ่อปลา บ่อกุ้ง รวม 9,538.98 ไร่ กระชัง 81,005 ตร.ม. เกษตรกร 9,805 ราย และด้านปศุสัตว์ มีจำนวนสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ แบ่งเป็น โค กระบือ สุกร แพะแกะ สัตว์ปีก รวม 3,568,339 ตัว เกษตรกร 60,578 ราย

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายได้อย่างรวดเร็ว และได้ให้การช่วยเหลือเฉพาะหน้า ประกอบด้วย

1.สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 2,289 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ 617 ในพื้นที่ประสบภัย โดยระดมเครื่องมือเครื่องจักรจากพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ยังไม่เกิดสถานการณ์ 2.แจกเมล็ดพันธุ์พืชผัก เช่น ผักบุ้ง คะน้า กวางตุ้ง ให้กับเกษตรกร 48,562 ราย 49,300 ซอง และเตรียมหัวเชื้อราไตรโคเดอร์มา 7,560 ขวด และเชื้อราโตรโคเดอร์มาพร้อมใช้ 14,840 กิโลกรัม สำหรับพื้นฟูพื้นที่การเกษตรหลังน้ำลด 3.อพยพสัตว์ จำนวน 589,984 ตัว หญ้าอาหารสัตว์พระระราชทาน 522,203 กิโลกรัม ส่งเสริมสุขภาพสัตว์ (แร่ธาตุ ยาปฏิชีวนะ วิตามิน) 22,742 ของ รักษาสัตว์ 7,275 ตัว ถุงยังชีพสัตว์ 165 ถุง พร้อมทั้งจัดตั้งสถานที่พักพิงสัตว์ชั่วคราว เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงปศุสัตว์ ปศุสัตว์ และสัตว์เลี้ยงของประชาชน โดยมีสัตวแพทย์ และเจ้าหน้าที่ช่วยดูแลสุขภาพสัตว์ให้ด้วย

4.ส่งเฮลิคอปเตอร์ 2 ลำ รุ่น AS 350 และ BELL 407 และเครื่องบิน ชนิด CN 1 ลำ CASA 2 ลำ CN235 1 ลำ เข้าช่วยเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมให้การสนับสนุนการปฏิบัติการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธาธารณภัย และกองบัญชาการกองทัพ ในการเข้าพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย 5.จัดชุดเฉพาะกิจพร้อมเจ้าหน้าที่ รถยนต์ เรือตรวจการณ์ประมง ช่วยนำส่งเสบียงอาหารและน้ำดื่ม ช่วยอพยพประชาชนและผู้ป่วยออกจากพื้นที่ พร้อมทั้งสนับสนุนสถานที่ราชการเป็นที่พักพิงชั่วคราว เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนและเกษตรที่ประสบปัญหาจากอุทกภัย โดยสามารถรองรับผู้ประสบภัยได้จำนวน 100 คน และที่จอดรถชั่วคราวจำนวน 200 คัน

6.สนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน วงเงินกู้ไม่เกิน 50,000 บาท และ 7.ช่วยเหลือเร่งด่วนเป็นถุงยังชีพ จำนวน 5,205 ชุด และอาหารปรุงสุกพร้อมน้ำดื่ม 24,450 ชุด

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้เตรียมแผนงานกิจกรรม เพื่อฟื้นฟูเกษตรกรหลังน้ำลด โดยเสนอขอให้บรรเทาความเดือดร้อนระยะเร่งด่วน แบ่งเป็น 1.การฟื้นฟูอาชีพหลังน้ำลด โดยการสนับสนุนพันธุ์ข้าว พืชไร่ พืชสวน พันธุ์สัตว์พันธุ์ปลา พร้อมปัจจัยการผลิต 2.การปรับพื้นที่และฟื้นฟูพื้นที่เกษตร และ 3.มาตรการลดภาระหนี้สินให้เกษตรกร เช่น ผ่อนผันหรือขยายเวลาการชำระหนี้ เงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ