เมื่อวันที่ 18 ก.ย. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เป็นประธานมอบรางวัล ใบเกียรติบัตรผู้เข้าแข่งขัน WorldSkills Lyon 2024 และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้สนับสนุนการแข่งขันฯ หลังเยาวชนสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยคว้า 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และ 7 เหรียญฝีมือยอดเยี่ยม พร้อมอัดฉีดรางวัลรวมมูลค่ารวมกว่าล้านบาท โดยมีนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน น.ส.บุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมเป็นเกียรติในพิธี ณ ห้องประชุมกระทรวงแรงงาน ชั้น 5 อาคารกระทรวงแรงงาน

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ขอแสดงความยินดีกับผู้เข้าแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 47 ที่สามารถคว้าเหรียญรางวัลในเวทีระดับโลกมาได้ นี่คือความสำเร็จในการแสดงความสามารถและศักยภาพของเยาวชนไทยที่มีทักษะฝีมือไม่แพ้ชาติใดในโลก และขอเป็นกำลังใจให้เยาวชนทุกคนที่พลาดเหรียญรางวัลในครั้งนี้ แต่ทุกคนมีประสบการณ์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้ นอกจากนี้ต้องยอมรับ เยาวชนทั้ง 22 คน เป็นสุดยอดฝีมือและเป็นแรงงานของประเทศไทยที่มีคุณภาพระดับสากล ซึ่งการแข่งขันในครั้งนี้ มีการแข่งขันทั้งหมดถึง 59 สาขา ประเทศไทยส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 19 สาขา รวม 22 คน มีประเภททีม 3 สาขา ผลการแข่งขันเป็นที่น่าพอใจ จากนี้จะต้องมองถึงการแข่งขันในอนาคต การส่งเสริมให้เยาวชนมีโอกาสแสดงศักยภาพของตนเองในสาขาอื่น ๆ เพิ่มขึ้น รวมถึงการพัฒนาเทคโนโลยีด้านต่าง ๆ ที่ต้องนำมาปรับใช้กับแรงงานไทย

สำหรับการจัดส่งเยาวชนเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งต่อไปจะเป็นสาขาอะไรบ้าง หรือเพิ่มจำนวนสาขาการจัดส่งเข้าแข่งขันหรือไม่นั้นต้องดูหลายปัจจัย เช่น เศรษฐกิจ ทิศทางความต้องการแรงงาน ความพร้อมของเยาวชนและหน่วยงานผู้สนับสนุนตั้งแต่การเก็บตัวฝึกซ้อมจนถึงการเดินทางไปแข่งขันในต่างประเทศ จากการสอบถามผู้เชี่ยวชาญที่เข้าสังเกตการณ์การแข่งขันในครั้งนี้ สาขาที่ประเทศไทยมีความโดดเด่น อีกทั้งรัฐบาลให้การสนับสนุนให้มีการพัฒนาให้มากขึ้น คือสาขาอาชีพภาคการท่องเที่ยว ดังนั้น สาขาอาชีพที่คาดว่าจะสามารถจัดส่งเยาวชนไทยเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งต่อไปได้ คือ สาขาสปาเพื่อความงาม และสาขาบริการด้านโรงแรม สำหรับในด้านอื่น ๆ เช่น การขนส่งหรือโลจิสติกส์ และซัพพลายเชน กลุ่มการสื่อสาร เป็นสาขาอาชีพที่มีแนวโน้มตลาดแรงงานมีความต้องการสูงเช่นกัน ในส่วนนี้ต้องมอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน หารือร่วมกับเครือข่ายการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในอนาคตต่อไป

นายพิพัฒน์ กล่าวต่อว่า การจัดส่งเยาวชนเข้าแข่งขันฝีมือแรงงานในครั้งนี้ ประสบความสำเร็จได้ต้องขอขอบคุณหน่วยงานผู้สนับสนุนทุกหน่วย ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชนและสถาบันการศึกษา ที่สนับสนุนทั้งด้านงบประมาณ เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุและอุปกรณ์ สถานที่เก็บตัวฝึกซ้อม รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านมาช่วยบ่มเพาะเยาวชนให้มีความพร้อมก่อนการแข่งขัน ซึ่งกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงานไม่สามารถดำเนินการเพียงลำพัง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้ ดังนั้น การพัฒนาศักยภาพแรงงานไทยจึงเกิดจากทุกภาคส่วน ร่วมแรง ร่วมใจ พร้อมที่จะสนับสนุนเพื่อร่วมกันขับเคลื่อนด้านการลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศไปได้

ด้าน น.ส.บุปผา กล่าวเพิ่มเติมว่า การแข่งขันฯ ในครั้งนี้ ได้รับความร่วมมือและให้การสนับสนุนอย่างดียิ่งจากหลายหน่วยงาน ทั้งสถาบันการศึกษา หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน อาทิ บริษัท Denso International Asia co.ltd บริษัท เค คอนซัลติ้ง แอนด์ ซัพพลาย จำกัด โรงเรียนพยาบาลรามาธิบดี มูลนิธิเอสซีจี บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัท โตโยต้า ไดฮัทสุ เอ็นจิเนียร์ริ่ง แอนด์ เมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี มหาวิทยาลัยศรีปทุม วิทยาลัยดุสิตธานี เป็นต้น และในวันนี้ได้จัดพิธีมอบเงินรางวัล รวมมูลค่า 1,098,000 บาท ประกอบด้วย ประเภทเดี่ยว เหรียญทอง 372,500 บาท เหรียญเงิน 248,500 บาท เหรียญทองแดง 124,000 บาท เหรียญฝีมือยอดเยี่ยม 51,000 บาท

น้อง ๆ ที่ไม่ได้รับเหรียญรางวัล จะได้รับทุนการศึกษาคนละ 10,000 บาท ส่วนประเภททีม เหรียญทอง 745,000 บาท เหรียญเงิน 497,000 บาท เหรียญทองแดง 248,000 บาท เหรียญฝีมือยอดเยี่ยม 102,000 บาท และรางวัลปลอบใจเป็นทุนการศึกษาทีมละ 20,000 บาท นอกจากนี้ ยังมีภาคเอกชนมอบเงินเป็นรางวัลของความทุ่มเทและเสียสละให้แก่น้อง ๆ ผู้เข้าแข่งขันอีกด้วย และในอีก 2 ปีข้างหน้า ปี พ.ศ. 2569 การแข่งขันฝีมือแรงงานนานาชาติ ครั้งที่ 48 จะจัดขึ้น ณ เมืองเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงเวลาต่อจากนี้ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จะทำการคัดเลือกเยาวชนรุ่นใหม่เพื่อเตรียมเก็บตัวฝึกซ้อมเข้าแข่งขันในครั้งต่อไป.