วันที่ 17 กันยายน 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานมอบ 40 โล่รางวัลสมาคมการค้าดีเด่นประจำปี 2567 เพื่อเชิดชูเกียรติสมาคมการค้าและผู้บริหารสมาคมการค้าที่มีผลงานโดดเด่น พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ “ยุทธศาสตร์การค้าและการส่งออกของไทย” ในงานสัมมนาใหญ่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ประจำปี 2024 โดยมีนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายอธิป พีชานนท์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผู้บริหารระดับสูงจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมด้วย ที่โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพมหานคร ช่วงค่ำวานนี้ (16 ก.ย. 67)

นายพิชัย กล่าวว่า ขอเรียนว่า วันนี้ กระทรวงพาณิชย์ ขอมารับใช้ท่าน มาช่วยสนับสนุนท่าน จะช่วยภาคเอกชนอย่างเต็มที่ พาภาคเอกชนไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งทุกวันนี้โลกเปลี่ยนเร็วมาก ต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลก มีสิ่งที่ต้องระวังหลายเรื่อง เช่น 1.เรื่องการใช้ระบบ AI ในทางที่ผิด 2.เรื่องสภาวะอากาศที่แรงสุดขั้ว และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 3.การแบ่งขั้วแบ่งฝ่ายของโลก เช่น รัสเซีย-ยูเครน 4.เรื่อง Cyber Security ที่เป็นปัญหามากขึ้น 5.ความขัดแย้งระหว่างประเทศที่เป็นวงกว้างขึ้น 6.เรื่องโอกาสทางเศรษฐกิจ รัฐต้องช่วยให้คนไม่ตายจน ต้องให้คนได้มีโอกาสทางเศรษฐกิจ 7.เรื่องเงินเฟ้อ 8.เรื่องการบังคับให้โยกย้ายถิ่นฐาน 9.เรื่องเศรษฐกิจที่ตกต่ำ ปีนี้เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดี การเจริญเติบโตทั้งโลกเฉลี่ย 2% ต้องทำให้เศรษฐกิจไทยโตสวนเศรษฐกิจโลกให้ได้ และ 10.เรื่องมลพิษ

ทั้งนี้ ตนได้มีการแถลงถึงทิศทางและนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ ผ่านกรอบ 10 นโยบายสำคัญ ในการช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ประกอบด้วย

1. นโยบายลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส ที่เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย ลดรายจ่ายให้ประชาชน เพิ่มรายได้และให้โอกาสกับประชาชนเพิ่มขึ้น โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว

2. การบริหารให้เกิดความสมดุลระหว่างผู้บริโภค เกษตรกรและผู้ประกอบการ ให้ทุกฝ่ายอยู่ได้ ถ้าคนรายได้ดีก็สามารถซื้อของแพงได้

3. การทำงานเชิงรุกระหว่างพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ เชื่อมโยงสินค้าของแต่ละจังหวัดไปยังต่างประเทศผ่านทูตพาณิชย์ เราจะดำเนินการอย่างไม่มีรอยต่อนำสินค้าไทยขายในตลาดโลกได้อย่างรวดเร็ว

4. การแก้ข้อจำกัดของกฎหมาย ปรับปรุงข้อกฎหมายที่ล้าสมัย รัฐบาลมุ่งหวังที่จะตัดปัญหาข้อกฎหมายให้ทำงานได้คล่องขึ้น เร่งแก้ไขสิ่งที่เป็นอุปสรรค โดยเฉพาะการค้าออนไลน์ที่โตขึ้นเรื่อยๆ

5. ร่วมขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจฐานราก โดยที่ความสำเร็จรัฐบาลวัดจากที่ว่าเราช่วยคนลำบากได้ขนาดไหน ต้องมองคนข้างหลังแล้วเดินไปด้วยกัน คนระดับล่างต้องอยู่ได้ มีความเป็นอยู่ที่ดี

6. เร่งผลักดันการส่งออกให้ตัวเลขเป็นบวกขึ้น ปีนี้โชคดี 7-8 เดือนแรกการส่งออกเติบโตถึง 3.8% แต่จะทำอย่างไรให้ขยายโตต่อไป  สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า หรือ สนค. บอกว่าการส่งออกไทยยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวได้อีก เดือนล่าสุด (ก.ค. 67) การส่งออกไทยโตถึง 15.2% หวังว่าเราจะสามารถรักษาการเติบโตของการส่งออกต่อไปได้

7. การเร่งเจรจา FTA เป็นเรื่องที่จำเป็น ที่กระทรวงพาณิชย์จะเร่งเดินหน้า FTA ปีนี้ ไทย-เอฟต้า (EFTA) น่าจะสำเร็จ ซึ่งเอฟต้าประกอบด้วยสมาชิก 4 ประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ นอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ และลิกเตนสไตน์ และจะเร่งเจรจา FTA ไทย-อียู ให้สำเร็จ พร้อมผลักดันใช้ประโยชน์ FTA อย่างเต็มที่

8. พานักธุรกิจไทยไปบุกต่างประเทศ ซึ่งภาครัฐกับเอกชนต้องร่วมมือกัน

9. ปรับโครงสร้างการส่งออกให้ทันสมัย ที่ผ่านมาเรากินบุญเก่า ต้องหาธุรกิจใหม่ๆ เช่น เรื่อง PCB (แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์) ต้องเร่งให้เกิดมากขึ้น ปีที่แล้วมีการลงทุนแล้วกว่า 150,000 ล้านบาท และวันที่ 25-29 กันยายนนี้ จะมี International Live Commerce Expo 2024 พาอินฟลูฯ จากจีน มาไลฟ์ขายสินค้าไทย และเรื่องการค้ากับจีนจะร่วมมือกัน การขายสินค้าต้องมีมาตรฐาน มี มอก. อย. เราต้องทำดีกับทุกประเทศ ให้มีการลงทุนจากจีนและอเมริกามาไทยเยอะๆ และกับอินเดียก็เป็นโอกาสการค้าและการลงทุน

10. ต้องส่งเสริมสินค้าที่รักษ์โลก เพราะปัญหาโลกร้อนจะเพิ่มขึ้นเร็วๆ ประเทศไทยกำลังจะเทรดคาร์บอนเครดิต

“ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์อยากทำและอยากเห็น เรามีหน้าที่ช่วยพวกท่าน ให้พวกท่านสามารถประสบความสำเร็จ กรอบคิดของเราคือซัพพอร์ต ทำอย่างไรให้พวกท่านรวยขึ้น นำเงินเข้ามาประเทศเยอะๆ พัฒนาประเทศเยอะๆ จ่ายภาษีเยอะๆ เพื่อนำเงินมาพัฒนาประเทศ กระทรวงพาณิชย์พร้อมยินดีต้อนรับทุกท่าน พร้อมเปิดกว้าง พร้อมรับฟังทุกความเห็นทุกข้อเสนอที่จะช่วยสร้างโอกาสให้กับคนไทยทุกคน” นายพิชัย กล่าว