สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองกาซาซิตี ฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 17 ก.ย. ว่า กลุ่มฮามาสเผยแพร่แถลงการณ์ของนายยาห์ยา ซินวาร์ ผู้นำสูงสุดฝ่ายการเมืองของกลุ่มฮามาส ยืนยันว่า “มีทรัพยากรเพียงพอที่จะทำสงครามยืดเยื้อและรุนแรง” กับอิสราเอล และแสดงความเชื่อมั่นว่า จะได้รับความสนับสนุนจากพันธมิตรในภูมิภาค รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และกลุ่มฮูตีในเยเมน ซึ่งเพิ่งยิงขีปนาวุธตกในเขตภาคกลางของอิสราเอล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา


ท่าทีดังกล่าวของผู้นำสูงสุดกลุ่มฮามาส เกิดขึ้นไม่นาน หลังนายโยอาฟ กัลลันต์ รมว.กลาโหมอิสราเอล กล่าวว่า โอกาสที่จะเจรจากับกลุ่มฮิซบอลเลาะห์เพื่อยุติการสู้รบ ระหว่างชายแดนทางเหนือของอิสราเอลกับภาคใต้ของเลบานอน “ร่อยหรอลงทุกขณะ”


ขณะเดียวกัน กัลลันต์กล่าวถึงกลุ่มฮามาส ซึ่งทำสงครามกับอิสราเอล ยืดเยื้อในฉนวนกาซาตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค. 2566 “ไม่ได้รวมกลุ่มกันในแบบองค์กรทางทหารอีกต่อไป”


ด้านนายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.การต่างประเทศ เตรียมเยือนอียิปต์ในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือครั้งใหม่กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลไคโร เพื่อผลักดันให้เกิดการหยุดยิงครั้งใหม่ในฉนวนกาซา


ขณะที่นายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เน้นย้ำว่า การที่กลุ่มฮามาสเป็นฝ่ายโจมตีอิสราเอลก่อน และควบคุมตัวประกันหลายร้อยคน เป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง แต่พูดกันตามความจริง “ไม่ควรมีการลงโทษแบบเหมารวม” กับชาวปาเลสไตน์.

เครดิตภาพ : AFP