สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 15 ก.ย. ว่า ความเคลื่อนไหวของหน่วยงานกำกับดูแลของจีน ถือเป็นการดำเนินการครั้งล่าสุด ในการปราบปรามพีดับเบิลยูซี จากการทำงานร่วมกับเอเวอร์แกรนด์ ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์ของวิกฤติหนี้สินที่ยืดเยื้อ ในภาคส่วนอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ

หน่วยงานกำกับดูแลระบุในประกาศ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า พีดับเบิลยูซี ไม่สามารถระบุ และไม่ให้ความสนใจต่อปัญหาทางการเงินที่ร้ายแรง ภายในเอเวอร์แกรนด์ ก่อนที่บริษัทผิดนัดชำระหนี้ครั้งใหญ่ เมื่อปี 2564

“ภายหลังการสอบสวน หน่วยงานกำกับดูแลพบว่า พีดับเบิลยูซี และบริษัทสาขาในเมืองกว่างโจว ทราบถึงการแสดงข้อมูลที่คลาดเคลื่อนอย่างมาก ในงบการเงินของเอเวอร์แกรนด์ ระหว่างการตรวจสอบบัญชี” กระทรวงการคลังของจีน ระบุในแถลงการณ์ พร้อมกับเสริมว่า พีดับเบิลยู ถูกระงับการดำเนินธุรกิจเป็นเวลา 6 เดือน และบริษัทสาขาในเมืองกว่างโจว ถูกเพิกถอนใบอนุญาต

ในแถลงการณ์แยก หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ชั้นนำของจีน ระบุว่าดำเนินการลงโทษพีดับเบิลยูซีแล้ว เนื่องจากบริษัทไม่ปฏิบัติตามการตรวจสอบวิเคราะห์สถานะ ในงานที่เกี่ยวข้องกับเอเวอร์แกรนด์, ไม่สามารถรักษาวิจารณญาณในการสังเกตและสงสัย เยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพ, ไม่สามารถใช้ดุลพินิจเยี่ยงผู้ประกอบวิชาชีพได้อย่างถูกต้อง และไม่สามารถพบการฉ้อโกงทางการเงินของเอเวอร์แกรนด์

ขณะเดียวกัน พีดับเบิลยูซี ระบุในแถลงกาณ์ตอบกลับบนเว็บไซต์ของบริษัทว่า ผู้ตรวจสอบบัญชีในจีน “มีมาตรฐานต่ำจนไม่อาจยอมรับได้” ระหว่างการทำงานกับเอเวอร์แกรนด์ ซึ่งหลังจากการสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทางบริษัทได้ดำเนินการเพื่อทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง รับผิดชอบต่อกรณีดังกล่าว.

เครดิตภาพ : AFP