เมื่อวันที่ 14 ก.ย. นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์น้ำท่วมที่เป็นวิกฤติการณ์ของภาคเหนือ ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ และขณะนี้ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงได้ไหลต่อเนื่องไปยังจังหวัดท้ายน้ำ ซึ่งเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ตนได้ให้ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัด พม. และอธิบดีทุกกรม รวมทั้งหัวหน้าหน่วยงานของกระทรวง พม. ทุกส่วนงาน ให้ดูแลพื้นที่ที่รับน้ำต่อจากจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย ไม่ว่าจะเป็นที่เชียงคาน จังหวัดเลย มาจนถึงจังหวัดบึงกาฬ มุกดาหาร นครพนม และหนองคาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จะมาจบที่จังหวัดอุบลราชธานี ถือเป็นจุดที่น้ำจะมารวมตัวกันค่อนข้างเยอะ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. ทุกคน ในทุกจังหวัดที่อยู่ตามลำน้ำโขงเตรียมรับมือ ซึ่งในขณะนี้ได้รับรายงานล่าสุดว่า น้ำได้เข้าถึงกลางตัวจังหวัดหนองคายแล้ว พี่น้องประชาชนได้รับความลำบากมากพอสมควร

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ดังนั้นหัวใจสำคัญที่กระทรวง พม. จะต้องเร่งดูแลในเบื้องต้น คือกลุ่มเปราะบางผู้สูงอายุ คนพิการ และเด็กเล็ก เพราะเป็นกลุ่มที่จะต้องใช้เวลามากกว่าปกติในการเคลื่อนย้าย โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มักจะติดบ้าน ไม่อยากจะไปไหน รวมถึงกลุ่มผู้พิการ ที่ต้องมีอุปกรณ์เสริมในการใช้ชีวิตที่ต้องขนย้ายด้วย ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ของกระทรวง พม. ไม่ว่าจะเป็นอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ทีม พม.หนึ่งเดียวของแต่ละจังหวัด ให้เร่งสำรวจและดูว่าในแต่ละพื้นที่มีกลุ่มเปราะบางเหล่านี้อยู่ที่หมู่บ้านใด ตำบลใด อำเภอใด เพื่อที่จะถึงเวลาจะได้มีการเคลื่อนย้าย หรือว่าได้เข้าไปช่วยเหลือได้ทันการณ์ รวมถึงให้เปิดสถานที่หน่วยงานของกระทรวง พม. ทั้งศูนย์-สถาน-บ้าน-นิคม หากสามารถเปิดได้ ก็ให้เปิดให้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะมีห้องน้ำ มีอาหาร น้ำดื่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน

นายวราวุธ กล่าวว่า ตนขอเป็นกำลังใจให้ประชาชนทุกคน ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาอุทกภัยในครั้งนี้ และที่สำคัญคือเจ้าหน้าที่ อาสาสมัครกู้ภัย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งของเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. ทุกคน ที่ทำงานกันอย่างขะมักเขม้น ฝ่าฟันอันตรายหลายอย่างในการที่จะช่วยพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในยามวิกฤติเช่นนี้ พวกเราทุกคนจะต้องจับมือเดินไปด้วยกัน และในนามของกระทรวง พม. ขอเป็นกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนทุกๆ คน.