เมื่อวันที่ 13 ก.ย. เวลา 13.55 น. ที่รัฐสภา นายชวน หลีกภัย สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายนโยบายรัฐบาล ถึงนโยบายเกี่ยวกับการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะตนถือว่าชีวิตคนมีค่ามากกว่าเงิน เราจะผิดพลาดนโยบายด้านเศรษฐกิจ หรือขาดทุนไปกี่หมื่นกี่แสนล้านบาท ก็ยังไม่เท่ากับชีวิตของคน 7,500 กว่าคนที่เสียไปจากความผิดพลาดในการดำเนินนโยบายด้านความมั่นคง ทั้งนี้ เมื่อรัฐบาลบรรจุเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้เพียง 1 บรรทัดในนโยบายของรัฐบาลแล้ว รัฐบาลก็ต้องดำเนินการให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งการจะแก้ปัญหานี้ให้ประสบความสำเร็จได้นั้น เราต้องยอมรับความจริง ว่าสาเหตุทั้งเกิดจากอะไร อาทิ เหตุการณ์เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2544 สำหรับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ขวานทอง เป็นแหล่งท่องเที่ยว และเป็นแหล่งที่สามารถสร้างรายได้ที่สนับสนุนให้ประเทศมีความเจริญก้าวหน้า รัฐบาลจึงต้องทำให้พื้นที่นี้เกิดความสงบให้ได้

นายชวน กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้อารัมภบทในการแถลงนโยบายรัฐบาล ว่าต้องการเห็นความสามัคคีและปรองดอง ซึ่งตนเห็นว่าการจะสร้างความสามัคคีปรองดองได้นั้น รัฐบาลต้องปฏิบัติต่อทุกคนอย่างเสมอภาค อย่าเลือกปฏิบัติ ดังนั้นรัฐบาลจึงควรชดเชยจากกรณีที่เคยปฏิบัติต่อประชาชนในภาคใต้ จนทำให้พวกเขาเสียโอกาส ขอให้รัฐบาลลองทบทวนดูว่ามีอะไรที่ทำให้ประชาชนเกิดความขุ่นข้องหมองใจ ความขัดแย้ง หรือเกิดความไม่ปรองดองกัน หรือถูกเลือกปฏิบัติ

นายชวน กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้ปฏิญาณตนว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ นึกถึงประโยชน์ประเทศ และจะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการ เรามีข้าราชการแต่ละกระทรวงพวกเขาไต่เต้าทำงานมาตามลำดับ เราต้องให้เกียรติข้าราชการ ซึ่งความซื่อสัตย์สุจริตในการแต่งตั้ง ต้องไม่เอาตำแหน่งมาเป็นราคา ดังนั้น นักการเมืองต้องปฏิบัติตามหลักธรรมาภิบาล ให้โอกาสคนเหล่านั้นมาตามความสามารถ ไม่ใช่ด้วยราคา ส่วนการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ประเทศและประชาชน วันนี้เหมือนระบบมือใครยาวสาวได้สาวเอา จึงอยากขอให้ ครม. แปลความข้อนี้ให้ชัดเจนว่า การบริหารประเทศไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมือง แต่เพื่อประโยชน์ของประชาชน ส่วนสุดท้ายคือการยึดหลักนิติธรรม ซึ่งเป็นหัวใจของการปกครอง ซึ่งปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ถ้ายึดหลักนิติธรรมตั้งแต่ต้น ปัญหาจะเกิดขึ้น แต่บังเอิญช่วงหนึ่ง เราใช้ฝ่ายบริหารเป็นศาล จึงเป็นที่มาของทุกวันนี้

“หากรัฐบาลยึดแนวทางข้างต้น คือ ยึดหลักความซื่อสัตย์สุจริต คำนึงถึงประโยชน์ประเทศประชาชน และยึดหลักนิติธรรม สิ่งนี้จะทำให้นโยบายต่างๆ ประสบความสำเร็จ” นายชวน กล่าว