เมื่อวันที่ 13 ก.ย.67 ที่บริษัท ชมเดือน คอมเพล็กซ์ จำกัด ถนนเณรแก้ว ต.ท่าพี่เลี้ยง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ดร.อุดม โปร่งฟ้า ที่ปรึกษา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  จัดงานเนื่อง ในโอกาสครบรอบวันคล้ายวันเกิด 61 ปี โดยมีแขกผู้มีเกียรติมาร่วมอวยพร อาทิ หม่อมหลวงสราลี กิติยากร , พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 , นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา ,  พล.ต.อ.วิรุฬห์ พื้นแสน อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. , นายวุฒิศักดิ์ รัตนสุบรรณ หัวหน้าส่วนราชการ นักการเมืองท้องถิ่น ทั้ง ส.อบจ.,  นายกเทศมนตรีฯ มนายก อบต.ฯ  , อสม. และประชาชน รวมอวยพรกันจำนวนมาก

ดร.อุดม โปร่งฟ้า   นอกจากเป็นที่ปรึกษา รมว.การพัฒนาสังคมฯ แล้ว ยังเป็นว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สุพรรณบุรี ในนามพรรคชาติไทยพัฒนา ถือเป็นกำลังหลักสำคัญของพรรคชาติไทยพัฒนา ในการร่วมกันพัฒนาจังหวัดสุพรรณบุรี มาโดยตลอด และยังเป็นคนสุพรรณบุรี เป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ เป็นบุคคลที่นายบรรหาร ศิลปอาชา  ให้ความไว้วางใจมากคนหนึ่ง เมื่อสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่  ได้ช่วยงานกับพรรคมาโดยตลอด ชื่อเสียงโด่งดังทางภาคอีสานมากกว่าบ้านเกิดที่สุพรรณบุรี หลังนายบรรหารถึงแก่อนิจกรรมลงได้กลับบ้านเกิดมาช่วยนายวราวุธ ศิลปอาชา พัฒนาจังหวัดสุพรรณบุรี ร่วมกับข้าราชการ สมาชิก.อบจ. , นายกเทศบาล นายก อบต. , กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน  เชื่อว่าจะทำให้สุพรรณบุรี มีความเจริญเหมือนที่นายบรรหาร ได้ทำเอาไว้ 

ดร.อุดม ยังจำวลีสำคัญของนายบรรหารมาตลอด คือ “สัจจะและกตัญญู” เพื่อเป็นแนวทางการรับใช้พี่น้องประชาชน และยังเป็นผู้ที่สนับสนุนส่งเสริม “บวรพระศาสนา บ้าน วัด โรงเรียนและชุมชน” มาอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ ทั้งยังเป็นที่รักและเคารพของชาวสุพรรณบุรี คนหนึ่งโดยอาศัยใช้ความเป็นคนนอบน้อม ถ่อมตน เข้ากับประชาชนได้ทุกชนชั้นได้อย่างไม่ยาก ทำให้เป็นที่รู้จักของคนสุพรรณบุรี

เมื่อถึงวาระจะเลือกตั้ง นายก อบจ.สุพรรณบุรี จึงอาสาลงเลือกตั้งเพราะตัวเองเป็นคนมีศักยภาพพร้อม ผ่านการเมืองทั้งสนามเล็กและใหญ่มาแล้ว เมื่อกลับมาอยู่สุพรรณบุรีได้ 5-6 ปี ได้ทำความคุ้นเคยกับประชาชนจนเห็นว่าประชาชน มีความเชื่อมั่น น่าจะเป็นนายก อบจ.สุพรรณบุรี ได้จึงขอความเห็นจากหลายฝ่าย โดยเฉพาะนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และภรรยาคือ ดร.สุจิตรา ทรงมัจฉา  

ดร.อุดม เปิดเผยกับหัวหน้าศูนย์ข่าวเดลินิวส์สุพรรณบุรี ว่า “ถ้าภรรยาผมเอ่ยปากห้าม ผมก็จะไม่ลงสมัคร เมื่อภรรยาไม่ห้ามก็ถือว่าภรรยาผมยอม เสียสละความสุขทุกอย่างที่จะหายไป  วันเกิดผมปีนี้ ผมบอกตรงนี้เลยว่า ผมขอเสียสละเวลาและชีวิตส่วนตัว เพื่ออาสามารับใช้ประชาชนคนสุพรรณบุรี ครับ”