BangkokAI และพันธมิตร จับมือ ช่างกลปทุมวัน เปิดหลักสูตร AI Software Architect & Analyst (AIAA รุ่นที่1) โดยเชิญวิทยากร ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI จากผู้ทรงคุณวุติ มาเติมเต็มเสริมความรู้ด้าน AI ในทุกมิติ โดยเฉพาะผู้นำภาคเอกชนและหน่วยงานเข้าอบรม เมื่อวันที่ 7-8 ก.ย. ที่ผ่านมา โดยหลักสูตรดังกล่าว จะเป็นการเจาะลึกทุกแง่มุมของ AI ตั้งแต่ LLM, AI Inference Engine RAG AI Generative Media & Stable Diffusion จนถึง Deep Fake และ Voice Fake

ดร.ศักดิ์ เสกขุนทศ Senior Master Advisor BangkokAI อดีต ผอ.สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (DGA: Digital Government Agency) กล่าวว่า เราได้มีการเชิญวิทยากรระดับท็อปของเมืองไทยมาถ่ายทอดความรู้ เพื่อให้ผู้เข้าอบรมทั้งจากด้านอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ ตลอดจนนักศึกษา ได้เก็บเกี่ยวความรู้ด้าน AI อย่างแท้จริง รวมถึงการเรียนรู้กลยุทธ์เตรียมความพร้อมการใช้ AI ในหน่วยงาน ในองค์กร โดยหลักสูตร AI Software Architect & Analyst (AIAA รุ่นที่ 1) จะช่วยให้ทุกคนรู้เท่าทัน AI ทั้งในด้านการพัฒนา การป้องกัน และขอบเขต โดยเฉพาะด้านจริยธรรม ธรรมาภิบาล และความโปร่งใสในการนำมาใช้งาน ซึ่งการเข้ามาของ AI มีทั้งผลดีและผลกระทบในทุกสาขาอาชีพที่ผู้บริหารต้องเร่งศึกษา โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ภาคธุรกิจ รวมทั้งในด้าน ai government, ai governance ที่ต้องมีความเข้าใจลึกซึ้ง ในการพัฒนาที่ยั่งยืนและสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานและประชาชน

ดร.ภมล ชินะจิตร กล่าวว่า การนำ LLM มาใช้ในองค์กรจะต้องฝึกให้สามารถทำงานเฉพาะทางได้ นักพัฒนา AI LLM แอปพลิเคชัน จะต้องเข้าใจ เริ่มต้นที่การทำ Pre-Training โดยนำองค์ความรู้ระเบียบ หลักปฏิบัติที่องค์กรต้องใช้เข้าสู่ LLM จากนั้นต้องสอนแบบ Supervised Fine-tuning (SFT) ให้ LLM ด้วย Dataset ชุดคำถาม คำตอบ และวิธีอื่นๆ เพื่อให้ LLM สามารถตอบคำถามที่ตรงใจ

ดร.เด่นเดช รักษ์รัตนตรัย กล่าวเสริมว่า กลไกการใช้ LLM คือการตั้งคำถามหรือการใช้ Prompt ในการใช้ RAG เราจะต้องเอาคำถามไปสืบค้นใน Vector Database ขององค์กรที่เก็บข้อมูลปัจจุบัน แล้วดึงข้อมูลมาประกอบกับคำถาม แล้วสร้างเป็น Prompt ใหม่ที่จะส่งเข้าไปถาม LLM ขององค์กร

ขณะที่นายสุธัช เจริญผล กล่าวว่า การสร้างภาพและวิดิโอที่เป็น Asset ขององค์กรใช้ในการประชาสัมพันธ์ งาน e-Learning งานนำเสนอ และงานนวัตกรรมด้านสื่อเป็นสิ่งที่ท้าทาย และก่อให้เกิดการเพิ่มคุณค่าและการเรียนรู้ถึงกลไกการทำงาน ซึ่งช่วยให้ Developer สามารถ Customize ระบบให้ทำงานตรงกับความต้องการขององค์กร ขณะที่การทำ Deepfake VoiceFake เป็นเรื่องท้าทายความสามารถในการสร้างการตรวจจับ ทั้งภาพและเสียง โดยการสอนจะสาธิตการทำ Deepfake ด้วย Local Software ไม่ใช่ On-cloud ซึ่งสร้างความเข้าใจเพื่อนำไปสู่การคิด วิธีการตรวจจับและการเฝ้าระวัง

ผศ.วิฑูรย์ อบรม รองอธิการบดี ฝ่ายนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เผยว่า ปัจจุบันสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน มีแนวทางการดำเนินงานผ่าน “ปทุมวันโมเดล” มุ่งเน้นการสร้างโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้แบบไม่มีขีดจำกัด ดังนั้นการเริ่มต้นเปิดอบรม AAIA LLM รุ่นที่ 1 เป็นจุดเริ่มต้นสร้างองค์ความรู้รูปแบบใหม่เพื่อให้ผู้สนใจได้เข้าถึง และเข้าใจเทคโนโลยีที่อยู่ในกระแสจากผู้มีประสบการณ์ จนสามารถนำความรู้ที่ได้จากการอบรมไปเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น อนาคตทางสถาบันฯ มุ่งเปิดหลักสูตรที่มีความหลากหลาย ขยายแนวทางการเป็น “ปทุมวันโมเดล” คือ “สร้างคนให้ตรงกับงาน ให้เนื้องานที่ได้จากคนมีประสิทธิภาพ”