เมื่อวันที่ 11 ก.ย. นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำป่าทะลักท่วมพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ว่า พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ และตน​ มีความห่วงใยในสถานการณ์น้ำท่วมเป็นอย่างมาก และขอเป็นกำลังใจให้กับทุกคน เราจะก้าวผ่านสถานการณ์​นี้ไปด้วยกัน ทั้งนี้ ตนได้เน้นย้ำให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย ทำการติดตามข่าวสารและเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากจำเป็นต้องประกาศปิดโรงเรียนเพื่อความปลอดภัยของนักเรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ขอให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดำเนินการได้ทันที ในส่วนของพื้นที่ใด หากมีรายงานว่าน้ำกำลังมา ก็ขอให้เตรียมแผนรับมือกับสถานการณ์น้ำหลากให้เหมาะสม แต่ทั้งนี้ขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเองเป็นหลัก

“เบื้องต้นเมื่อเวลา 10.40 น. ได้รับรายงานข้อมูลจากศูนย์ความปลอดภัย สพม. และ สพป.เชียงราย เขต 1 เกี่ยวกับเหตุการณ์อุทกภัยในจังหวัดเชียงราย พบว่า มี 17 โรงเรียน และ 1 สพม. ได้รับผลกระทบ เช่น น้ำท่วมบริเวณพื้นอาคารเรียน สนามโรงเรียน ดินสไลด์ปิดทางเข้าออกโรงเรียน เป็นต้น เนื่องจากมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง และปริมาณน้ำในแม่น้ำกกเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เอ่อล้นท่วมบริเวณโดยรอบแม่น้ำ ไหลเข้าท่วมในหลายพื้นที่ของ อำเภอเมืองเชียงราย จังหวัดเชียงราย ส่งผลให้การจราจรติดขัด หลายเส้นทางปิดการใช้งาน รถยนต์เก๋ง รถเล็ก ไม่สามารถผ่านไปได้ รวมถึงสะพานข้ามแม่น้ำกกทุกสะพานในเขตเมืองเชียงราย ปิดการจราจร ส่งผลให้บุคลากรในสังกัด สพม.เชียงราย ไม่สามารถเดินทางมาปฏิบัติงานได้ และได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์อุทกภัยดังกล่าว” รมช.สุรศักดิ์ กล่าว

นายสุรศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า จากการได้รับรายงานการดำเนินการในระยะเร่งด่วน เบื้องต้นทาง สพม.และ​ สพป.เชียงราย เขต 1 กำลังจัดเตรียมถุงยังชีพเพื่อมอบให้กับโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบให้เร็วที่สุด​ พร้อมทั้งได้มีการกำชับให้ผู้บริหารในทุกกลุ่มงาน ขนย้ายเอกสารสำคัญและทรัพย์สินทางราชการขึ้นไว้ชั้น 2 เพื่อเตรียมการป้องกันความเสียหาย และเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำกกอย่างใกล้ชิด โดยอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับบุคลากรในสังกัด​ ทั้งนี้ ในส่วนของบุคลากรที่ไม่สามารถเดินทางมาปฏิบัติงาน ณ สำนักงานเขตพื้นที่ได้ ให้ปฏิบัติงานในรูปแบบออนไลน์ (Work Form Home) พร้อมแจ้งประชาสัมพันธ์สถานการณ์เส้นทางการจราจร เพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับโรงเรียนในสังกัด หรือผู้มาติดต่อประสานงานอย่างใกล้ชิดต่อไป