เบลารุสขับทูตใหญ่ฝรั่งเศส เหตุไม่มอบอักษรสาส์นตราตั้ง

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมินสก์ ประเทศเบลารุส เมื่อวันที่ 18 ต.ค.ว่าสถานเอกอัครราชทูตฝรั่งเศสประจำกรุงมินสก์ออกแถลงการณ์ ว่านายนิโคลาส เดอ บูแยง เดอ ลาคอส เอกอัครราชทูต ได้เดินทางออกจากเบลารุส เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพื่อกลับไปยังกรุงปารีส โดยยังไม่มีการระบุสาเหตุชัดเจน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของเบลารุสและฝรั่งเศส ต่างยังคงปฏิเสธให้ความเห็นอย่างเป็นทางการ

"Le ministère bélarusse des Affaires étrangères a demandé que l'ambassadeur parte avant le 18 octobre", a indiqué le porte-parole de l'ambassade. L'ambassadeur "a dit au revoir au personnel de l'ambassade", a-t-il ajouté #AFP

— Agence France-Presse (@afpfr) October 17, 2021

The French Ambassador to Minsk has principles and values. This is obviously too much for the Lukashenka’s regime. Thank you for your service Nicolas de Lacoste. https://t.co/9pNeyyrm7f

— Nathalie Loiseau (@NathalieLoiseau) October 17, 2021

อย่างไรก็ตาม สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของเบลารุสรายงานไปในทางเดียวกัน ว่ารัฐบาลมินสก์ประกาศเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ให้เดอ ลาคอส มีสถานะเป็น “บุคคลไม่พึงปรารถนา” และต้องเดินทางออกจากเบลารุส ก่อนเข้าสู่วันที่ 18 ต.ค.ตามเวลาท้องถิ่นของกรุงมินสก์

เนื่องจากนับตั้งแต่เดินทางมาประจำการที่กรุงมินสก์ เมื่อปลายปีที่แล้ว เดอ ลาคอส วัย 57 ปี ไม่เคยแจ้งเรื่องมายังรัฐบาลเบลารุส เพื่อมอบอักษรสาส์นตราตั้ง ให้แก่ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก แต่ใช้วิธีเข้าพบนายวลาดิเมียร์ มาเค รมว.การต่างประเทศของเบลารุส เพื่อมอบเอกสารแทน นอกจากนี้ นายอิกอร์ เฟเซนโก เอกอัครราชทูตเบลารุสประจำกรุงปารีส ได้รับคำสั่งให้เดินทางกลับด้วย

ทั้งนี้ ฝรั่งเศสมีจุดยืนร่วมกับสหภาพยุโรป (อียู) นั่นคือ การไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งผู้นำเบลารุส เมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งลูคาเชนโกได้รับชัยชนะ และดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีต่อเนื่องเป็นสมัยที่ 6 หลังอยู่ในวาระตั้งแต่ปี 2537 หรือประมาณ 3 ปี หลังการล่มสลายของสหภาพโซเวียต และเบลารุสได้รับเอกราช.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES