สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย เมื่อวันที่ 3 ก.ย. ว่า ประธานาธิบดีอุคห์นา คูเรคซุคห์ ผู้นำมองโกเลีย ให้การต้อนรับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ที่จัตุรัสเจงกิส ข่าน ในกรุงอูลานบาตอร์ โดยการเยือนมองโกเลียของปูตินครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ในรอบ 5 ปี


ขณะที่สื่อท้องถิ่นหลายแห่งของมองโกเลียรายงานว่า หนึ่งในประเด็นสำคัญของการหารือครั้งนี้ คือ “โครงการพัฒนาทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม” ระหว่างสองประเทศ หนึ่งในนั้นคือโครงการท่อส่งก๊าซธรรมชาติ “ทรานส์มองโกเลีย” เชื่อมระหว่างจีนกับรัสเซีย และแผนการจัดการประชุมไตรภาคีระหว่างผู้นำของทั้งสามประเทศด้วย


อนึ่ง สำหรับการเยือนมองโกเลียของปูตินครั้งนี้ ได้รับการจับตามองจากหลายฝ่าย เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่ผู้นำรัสเซียเยือนประเทศซึ่งเป็นสมาชิกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ไอซีซี) ซึ่งออกหมายจับปูติน เมื่อเดือน มี.ค. 2565 ในข้อหาอาชญากรรมสงคราม เกี่ยวข้องกับสงครามในยูเครน


อนึ่ง มองโกเลียให้สัตยาบันต่อธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งเป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศเพื่อก่อตั้งไอซีซี เมื่อเดือน ธ.ค. 2543 โดยหนึ่งในสาระสำคัญของธรรมนูญกรุงโรมระบุว่า รัฐสมาชิกของไอซีซี “จะปฏิบัติตามเงื่อนไข” หากผู้ต้องหาตามหมายจับของไอซีซีปรากฏตัวอยู่ในประเทศแห่งนั้น

ขณะที่นายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า “ไม่กังวล” กับการเยือนมองโกเลียของปูติน โดยยืนยันว่า รัสเซียและมองโกเลีย “เตรียมการร่วมกันเป็นอย่างดี” ด้านกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยืนกรานว่า หมายจับของไอซีซี “ไม่มีความหมายในทางใดทั้งสิ้น” เนื่องจากรัสเซียไม่ได้ร่วมเป็นภาคีของธรรมนูญกรุงโรม และวิจารณ์การที่ไอซีซี “เพิกเฉย” ต่อการที่สหรัฐเข้าไปปฏิบัติการในอิรัก เพื่อโค่นอำนาจประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน เมื่อปี 2546


ส่วนกระทรวงการต่างประเทศยูเครนออกแถลงการณ์ประณามมองโกเลีย ที่ไม่จับกุมปูติน และเน้นย้ำว่า จะผลักดันให้มีกระบวนการ “ลงโทษ” ต่อมองโกเลีย ซึ่งล้มเหลวในการปฏิบัติตามพันธะสัญญญาที่ผูกพันกับไอซีซี.

เครดิตภาพ : AFP