สำนักข่าวเอพีรายงานจากเมืองเดนปาซาร์ จังหวัดบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ว่า เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา เกิดแผ่นดินไหวรุนแรงทำให้ประชาชนแตกตื่น วิ่งหนีออกนอกบ้านด้วยอาการตื่นตระหนก และยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกด้วย ในขณะที่แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของอินโดนีเซียแห่งนี้ กำลังอยู่ในช่วงเปิดประเทศ รับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ หลังจากถูกล็อกดาวน์มานานเพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ รายงานว่า แผ่นดินไหวรุนแรงวัดได้ 4.8 แมกนิจูด ศูนย์กลางอยู่ที่ 62 กม.ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมืองซิงการาจา เมืองท่าบนเกาะบาหลี และอยู่ลึกลงไปใต้ดิน 10 กม.เท่านั้น หลังจากนั้นยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีก 4.3 แมกนิจูด แต่ครั้งนี้ศูนย์กลางอยู่ลึกลงไป 282 กม.

นายจีดี ดาร์มาดา หัวหน้าสำนักงานค้นหาและกู้ภัยจังหวัดบาหลี เปิดเผยว่า กำลังรวบรวมรายงานความเสียหาย โดยเบื้องต้นพบผู้บาดเจ็บ 7 คน ส่วนใหญ่หัวแตกและกระดูกหัก แผ่นดินไหวยังทำให้เกิดดินถล่ม ทับเส้นทางเข้าออกสามหมู่บ้านในพื้นที่ที่เป็นภูเขา มีผู้เสียชีวิต 2 ศพ และยังมีบ้านเรือนและวัดพังถล่มในเมืองคารันกาเซม ซึ่งอยู่ใกล้ศูนย์กลางแผ่นดินไหว เด็กหญิงวัยเพียง 3 ขวบ เสียชีวิตเพราะถูกสิ่งของล้มทับ


เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา บาหลีเพิ่งจะเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นครั้งแรกในช่วงเวลากว่าหนึ่งปี เพราะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งขณะนี้ยังพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ทั่วประเทศเฉลี่ยวันละ 1,000 ราย จากที่เคยพบผู้ป่วยติดเชื้อรายวันมากถึง 56,000 ราย เมื่อเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา


อินโดนีเซียเป็นประเทศหมู่เกาะมีประชากร 270 ล้านคน เกิดแผ่นดินไหว สึนามิ และภูเขาไฟระเบิดได้บ่อยครั้ง เพราะตั้งอยู่ในเขตวงแหวนไฟแห่งแปซิฟิก โดยแผ่นดินไหวรุนแรงล่าสุดเกิดเมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา วัดได้ 6.2 แมกนิจูด มีผู้เสียชีวิต 105 ศพ บาดเจ็บ 6,500 คน ประชาชนไร้ที่อยู่อาศัย 92,000 คน ในเขตมามาจูและมาจีนี จังหวัดเวสต์สุลาเวสี


เครดิตภาพ AP