สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ว่า นายซุฟมี แดสโก อาหมัด รองประธานสภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซีย กล่าวว่า ที่ประชุมไม่มีการอภิปรายและลงมติ เกี่ยวกับการแก้ไขเนื้อหาบางส่วนของกฎหมายการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่ยังไม่ได้ยืนยันอย่างชัดเจน ว่าจะกลับมาอภิปรายและลงมติเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้งหรือไม่


เดิมที สภาผู้แทนราษฎรอินโดนีเซียเตรียมหารือเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สร้างความไม่พอใจให้กับหลายฝ่าย โดยเฉพาะนักศึกษาซึ่งออกมารวมตัวประท้วงอย่างหนัก ในกรุงจาการ์ตา และเมืองใหญ่อีกหลายแห่ง โดยมีการปะทะกับตำรวจปราบจลาจลด้วย


ทั้งนี้ ฝ่ายที่แสดงความไม่พอใจมองว่า เป็นความพยายามของสภาล่าง ที่ต้องการพลิกคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพิพากษายืนกฎหมายกำหนดอายุขั้นต่ำของผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในการเลือกตั้งท้องถิ่น ให้อยู่ที่ 30 ปีต่อไป เท่ากับเป็นการตัดสิทธินายแกซัง ปันกาเรป วัย 29 ปี บุตรคนสุดท้องของประธานาธิบดีโจโค วิโดโด ออกจากการลงสมัครโดยปริยาย ซึ่งปันกาเรปกำลังจะมีอายุครบ 30 ปี ในเดือน ธ.ค. ที่จะถึง แต่การเลือกตั้งระดับภูมิภาคจะเกิดขึ้นในเดือน พ.ย.


ขณะที่ทำเนียบประธานาธิบดีอินโดนีเซียออกแถลงการณ์ ขอให้ประชาชนอยู่ในความสงบ และอย่าหลงเชื่อข้อมูลข่าวสารอันเป็นเท็จ แต่บรรดานักวิเคราะห์มองว่า ประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ มีความวิตกกังวล ความไม่มั่นใจ และความโกรธแค้น ว่าวิโดโดซึ่งกำลังจะหมดวาระในเดือน ต.ค. นี้ เตรียมสร้าง “ตระกูลการเมืองใหม่”


อนึ่ง นายกีบราน ราคาบูมิง รากา บุตรคนโตของวิโดโด วัย 36 ปี ได้รับการเลือกตั้งในตำแหน่งรองประธานาธิบดี โดยลงสมัครได้หลังศาลรัฐธรรมนูญในเวลานั้น วินิจฉัยว่า บุคคลซึ่งเคยได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองระดับภูมิภาคมาก่อน สามารถลงสมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี แม้อายุยังไม่ถึงเกณฑ์อายุขั้นต่ำของผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี และรองประธานาธิบดี นั่นคือ 40 ปี

อย่างไรก็ตาม ประธานศาลรัฐธรรมนูญในเวลานั้น ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้องเขยของผู้นำอินโดนีเซีย ลาออกในเวลาต่อมา.

เครดิตภาพ : AFP