มาแรงไม่ติดเบรกเลยจ้าสำหรับละคร “รอยรัก รอยบาป” ทางช่อง 7HD ผลงานคุณภาพ โดยค่ายดาราวิดีโอ ที่ยืนหนึ่งทั้งเรื่องเรตติงและกระแสตั้งแต่รุ่นพ่อแม่นำแสดงโดย ฟลุค-เกริกพล มัสยวาณิช และ เจี๊ยบ-พิจิตตรา สิริเวชชะพันธ์ จนตอนนี้ส่งไม้ต่อความแซ่บ สร้างกระแสแรงต่อเนื่องมาถึงรุ่นลูก โดยวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ “หนูยิ้ม” ลูกสาวขาวีนของ พระยาวิสุทธิ์ ซึ่งรับบทโดย ปิ่น-ชรินพร เงินเจริญ นางเอกสาวดาวรุ่งฝีมือดี ที่เล่นอินเนอร์แรงจนกระแทกใจแฟนละครสุด ๆ ไปเลย

ฟีดแบ็กตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

“ฟีดแบ็กกลับมาดีมาก ๆ มากแบบที่เราก็แอบตกใจเลย คือทุกคนอินกันมากค่ะ อย่างเวลาปิ่นไลฟ์ จะมีแฟนละครเข้ามาแซวเลยว่า หยุดไปตบคนอื่นได้แล้ว เธอต้องคิดได้สิ บางคนก็ต่อว่า ปิ่นก็จะบอกว่า นี่น้องปิ่นนะคะใจเย็น ๆ กันน้า เอาจริง ๆ ตอนที่ปิ่นดูละคร ปิ่นก็รู้สึกเลยว่า หนูยิ้มเธอแรงมาก แล้วก็ดูไปรู้สึกเจ็บคอไป (หัวเราะ) เพราะเราวี้ด กรี๊ดตลอด ปิ่นรู้ว่าทุกคนอยากหยุมหัวหนูยิ้มแล้ว แต่อย่าเพิ่งเลยนะคะ อยากให้ทุกคนใจเย็น ๆ รอติดตามชมไปเรื่อย ๆ ก่อน เพราะทุกอย่างมีที่มาที่ไป หนูยิ้มไม่ได้อยากเป็นแบบที่ทุกคนเห็นหรอก แต่จิตใต้สำนึกทำให้เราลงมือทำลงไปแบบนั้น ความที่รักคุณแม่ เทิดทูนคุณแม่ เราก็เลยเป็นอย่างนั้นค่ะ”

เล่าเรื่องของ “หนูยิ้ม” และเปรียบเทียบกับ “หนูปิ่น” ให้ฟังหน่อย?

“ตัวละครหนูยิ้ม เป็นนักเรียนนอกค่ะ ลึก ๆ เป็นคนจิตใจดีนะคะ แต่จากที่ทุกคนเห็นว่าหนูยิ้มร้าย นั่นก็เพราะมีบางสิ่งบางอย่างที่อาจจะมากระทบจิตใจ โดนคุณแม่ (รับบทโดย เจี๊ยบ พิจิตตรา) เป่าหู ทำให้หนูยิ้มกลายเป็นเด็กก้าวร้าว รุนแรง เอาแต่ใจ ดูร้ายกับทุกคน ซึ่งถ้ามาเทียบกับปิ่นแล้ว คาแรกเตอร์ของปิ่นกับหนูยิ้ม ต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยค่ะ ปิ่นจะเป็นคนสบาย ๆ ชิล ชิล อย่างเวลาที่หนูยิ้มไม่พอใจ เวลาที่มีใครเข้ามายุ่งกับของที่เป็นของเขา เขาก็จะด่า จะว่าออกไปเลย แต่กับตัวปิ่นก็จะไม่ทำแบบนั้นนะคะ แล้วในละครหนูยิ้มก็ค่อนข้างจะเป็นสายบุก เป็นนักตบเลย (หัวเราะ) ถ้าไม่พอใจ เขาก็ลงมือทันที จะไม่ถามไม่อะไรทั้งนั้น ถ้าเกลียดก็คือจัดการเลย อันนี้ต่างกับปิ่นมากค่ะ”

หลายคนชมแฟชั่น “หนูยิ้ม” ชุดสวยมากรู้สึกอย่างไร?

“ชุดในละครสวยมากค่ะ คือความที่หนูยิ้มเป็นนักเรียนนอก ดังนั้นก็จะมีเครื่องแต่งกายพอสมควรเลย”

ในละครเรื่องนี้ ปิ่น ได้ร่วมงานกับรุ่นพี่นักแสดง และเพื่อน ๆ เยอะมาก บรรยากาศในกองเป็นอย่างไร?

“บรรยากาศในกองอบอุ่นและคึกคักมากค่ะ การทำงานทุกอย่างสนุกมาก ตั้งแต่ผู้กำกับคือพี่หลุยส์ (สยาม สังวริบุตร) พี่หลุยส์เป็นผู้กำกับที่ละเอียดและใส่ใจทุกตัวละครมาก ๆ ถ้าเรายังทำไม่ได้ พี่หลุยส์ก็จะให้ลองใหม่จนกว่าจะทำได้ พี่หลุยส์จะใส่ใจคอยอธิบายความรู้สึกของตัวละครให้เราเข้าใจ เลยทำให้การทำงานของเราราบรื่นค่ะ ส่วนพี่ ๆ อย่างพี่ฟลุคน่ารักมากค่ะ พี่เขาเป็นคนเฟรนด์ลี่มาก เหมือนกับพี่เจี๊ยบพิจิตตรา ที่ใจดีมาก ๆ พี่เกรซ พัชร์สิตาก็เหมือนกันค่ะ ต้องบอกว่าพี่ ๆ ทุกคนเลยดีกว่า ทุกคนจะมีความเป็นกันเอง ส่วนรุ่นลูก ๆ ทุกคนก็น่ารัก ทำให้บรรยากาศในการทำงานมีความสุข ทุกคนสนุกกับงานมาก คือไม่มีบรรยากาศอึมครึมเลย เว้นแค่ตอนที่เราถ่ายทำ เรียกว่าพอคัตปุ๊บก็ปล่อยเลย ไม่เครียดค่ะ”

ในละครปิ่นคู่กับ ภูมิ (เกียรติภูมิ บันลือชัยฤทธิ์) ทำ งานร่วมกันเป็นอย่างไร ในละครมีฉากกุ๊กกิ๊กเยอะไหม?

“กับพี่ภูมิทำงานด้วยกันง่ายมากเลยค่ะ พี่ภูมิเป็นคนเก่ง และทำการบ้านมาตลอด ทำให้เราเข้ากันง่ายมาก ส่วนฉากกุ๊กกิ๊กอาจจะไม่ได้มีให้เห็นกันเยอะมาก ส่วนใหญ่จะเป็นการกุ๊กกิ๊กแบบมองตา สบตา ร้องไห้ ซบเขาบ้าง (ยิ้ม)”

ปิ่นคาดหวังอย่างไรกับละครเรื่องนี้?

“เอาจริง ๆ คืออยากให้ทุกคนสนุกไปกับละครของเราค่ะ ปิ่นก็พร้อมรับฟังฟีดแบ็ก ว่าแต่ละคนคิดว่าการแสดงของเราเป็นอย่างไร เพราะปิ่นมองว่าถ้ายังทำได้ไม่ดี เราก็พร้อมพัฒนาตัวเองในผลงานชิ้นต่อไปของเราในวันข้างหน้า ส่วนคนที่ชอบปิ่นอยากขอบคุณทุก ๆ คนนะคะ ปิ่นเชื่อว่าเราตั้งใจเต็มที่ ส่วนผลที่จะออกมานั้น ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้นค่ะ”

ในมุมมองเรื่องงาน ปิ่นถือว่าเป็นนักแสดงรุ่นใหม่ ที่ตอนนี้การแข่งขันในวงการเรียกว่าสูง ปิ่นคิดอย่างไร?

“จริง ๆ ปิ่นมองว่าทุกบทบาทที่ปิ่นได้รับมา ถือว่าเป็นการที่ได้เรียนรู้ และพัฒนาฝีมือมาโดยตลอด แต่ปิ่นก็ยังมองว่าตัวเองเป็นเด็กใหม่ในวงการนี้ ดังนั้นเราต้องพัฒนาตัวเอง พัฒนาฝีมือตลอดค่ะ แต่จะไม่กดดันตัวเอง ว่าจะต้องเอาตัวเองไปแข่งกับใคร ปิ่นมองว่าเราทำหน้าที่ของเราอย่างตั้งใจ มีผลงานออกมา แล้วคนเอ็นดูชอบผลงานดีกว่าที่เราจะไปแข่งกับคนอื่น เพราะถ้ามัวแต่คิดที่จะไปแข่งขัน การแสดงนั้นมันคงออกมาไม่เป็นธรรมชาติ ดังนั้นเราทำทุกอย่างด้วยความตั้งใจ สนุกไปกับทุกบทบาท ทุกงานที่ได้ แล้วมันจะคลายความกังวล ความเครียด ความกดดันทุกอย่าง ปิ่นเชื่อว่าการทำงานอาชีพนี้ ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ต้องพัฒนาตัวเองอยู่เสมอค่ะ”

ปิ่นว่างานในวงการบันเทิง มีเสน่ห์อย่างไร?

“ก่อนหน้าที่ปิ่นจะมาอยู่ตรงนี้ ปิ่นเคยคิดว่าการเป็นนักแสดง ต้องเป็นอาชีพที่สบายมาก ๆ แต่วันนี้พอเราได้มาเป็นนักแสดงจริง ๆ เรารู้เลยว่า อาชีพนี้ไม่ได้สบายขนาดนั้นนะ มันเหนื่อย แต่มันก็มีความสุข คือมันก็ไม่ได้เหนื่อยแบบอยากร้องไห้ อยากกลับบ้าน ไม่อยากถ่ายละครแล้วนะคะ แต่มันเป็นความเหนื่อยที่เราสนุก เรามีความสุขไปกับการตื่นเช้ามาทำงาน มาถ่ายละคร แต่ละบทบาทที่ได้รับ เป็นความท้าทาย ว่าจะทำได้ไหม และทำแล้วทุกคนจะเชื่อในการแสดงของเราไหม มันเป็นเสน่ห์ที่ต้องเรียนรู้จากประสบการณ์ที่เราจะต้องค่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ ค่ะ”

หันมาที่วันว่างของปิ่นบ้าง วันไหนถ้าไม่ทำงาน ทำอะไรบ้าง?

“ส่วนใหญ่จะไปคาเฟ่ค่ะ ไปเดินถ่ายรูปเล่น เอามาลงโซเชียล หรือบางทีก็ไปชอปปิงค่ะ เรียกว่าเป็นวันชิล ชิล ที่ได้พัก ได้เที่ยว ไปกับเพื่อนบ้าง หรือบางทีก็จะชวนพ่อกับแม่ไปด้วย แบบไปกินขนม ไปกินข้าวกัน ปิ่นยังชอบไปไหนมาไหนกับพ่อแม่นะ คือไม่อยากไปแค่กับเพื่อนค่ะ กลัวพ่อกับแม่จะน้อยใจ เพราะปิ่นเป็นลูกคนเดียว อีกอย่างการไปกับพ่อแม่ เราก็จะไม่ต้องเสียสตางค์เองนะคะ (หัวเราะ) แล้วเวลาไปด้วยกัน พ่อก็จะเป็นคนคอยถ่ายรูปให้ตลอด เพราะพ่อชอบถ่ายรูป อย่างในไอจีของปิ่นรูปที่เห็นส่วนใหญ่ก็คือพ่อเป็นคนถ่ายให้ปิ่นค่ะ”

ปิ่นบาลานซ์เวลาในการใช้ชีวิตอย่างไร?

“ในเวลานี้ก็แบ่งเป็นเรื่องของการเรียนที่มหาวิทยาลัยธรรม ศาสตร์ ซึ่งตอนนี้อยู่ปี 3 แล้วค่ะ ถ้าเปิดเทอมแล้ว ปิ่นจะให้เวลากับการเรียนเต็มที่ ถ้าต้องเรียนจันทร์–ศุกร์ ก็คือเบรกงานเลย แต่ถ้าเป็นช่วงปิดเทอมก็จะเทเวลาให้กับการทำงานเต็มที่ซึ่งปกติปิ่นเองพยายามจะบาลานซ์แบ่งแบบนี้ คือเรียน ทำงาน แล้วก็มีวันชิล ชิล ของตัวเองค่ะ อย่างเวลา วันเสาร์–อาทิตย์ โดยเฉพาะวันอาทิตย์จะเป็นวันครอบครัวเลยค่ะ จะชวนกันออกไปทานข้าวนอกบ้าน ปิ่นพยายามแบ่งเวลาให้บาลานซ์ที่สุด รวมถึงปิ่นเป็นคนที่ถ้าอยากกินอะไร อยากทำอะไร ปิ่นจะไม่รอ จะทำเลย จะไม่มาแบบเดี๋ยวนะ เดี๋ยวค่อยไป ไม่เป็นแบบนั้นค่ะ ปิ่นรู้สึกว่าอยากเต็มที่กับทุกสิ่งที่อยากทำค่ะ”

หันมาที่ความรักกันบ้าง มุมมองความรักของปิ่นเป็นอย่างไร?

“ปิ่นมองว่าความรัก คือการที่เรามีคนที่อยู่ด้วยแล้วเราสบายใจ เขาสบายใจ ไม่มีอะไรมากเลย ความรักคือการที่คนสองคนซัปพอร์ตซึ่งกันและกัน เป็นความสบายใจให้กันและกัน อย่างถ้ามีแฟน เวลาที่ทำงาน เราแค่บอกเขาว่าทำงานนะ แล้วเขาตอบกลับมาว่าเต็มที่นะ เป็นกำลังใจให้นะ ปิ่นต้องการเท่านี้ก็พอแล้วค่ะ”

สเปกหนุ่ม ๆ คนที่ใช่ของปิ่น ต้องเป็นแบบไหน?

“ขอคนที่เข้าใจกันค่ะ มองเรื่องนิสัยด้วย รวมถึงมายเซตของเขา ที่น่าจะต้องไปทางเดียวกับเราค่ะ แต่ถ้าในเรื่องของภาพลักษณ์ ปิ่นขอแค่คนตี๋ ๆ (ยิ้ม) แล้วก็สูง ๆ หน่อยค่ะ เพราะปิ่นชอบ พี่ธีร์ (ด.ช.ธีร์ทองธรรม) น้องพีร์ (ด.ช.พีร์ทองธรรม) ลูกของพี่บีม (กวี ตันจรรักษ์) มาก เลยแอบคิดว่าถ้าอนาคตเรามีครอบครัว อยากให้มีลูกออกมาแบบตี๋ ๆ น่าจะน่ารักเลยค่ะ”

ท้ายที่สุด ให้ปิ่นฝากผลงานสักหน่อย?

“ตอนนี้ปิ่นมีละครเรื่องรอยรักรอยบาปนะคะ ทั้งปิ่น ผู้จัด นักแสดงทุกคน ทีมงานคือตั้งใจกันเต็มที่กับผลงานเรื่องนี้มาก ๆ และนอกจากนี้ปิ่นก็มีละครเรื่อง ร้ายเดียงสา ที่ถ่ายทำไว้แล้ว อยากให้รอติดตามชมกันในอนาคตด้วยนะคะ ส่วนใครที่อยากดูไลฟ์สไตล์ของปิ่นมาติดตามกันได้ทางอินสตาแกรม @_pppinchrp ค่ะ”

ไม่บอกก็รู้ว่าสาวปิ่นอนาคตไกลแน่ ๆ เพราะเธอรู้จักพัฒนาตัวเองและทำงานด้วยความรักในงานแสดงอย่างแท้จริง แล้วแบบนี้แฟน ๆ ไม่รักได้ยังไงเนอะ ต้องรักมาก ๆอยู่แล้ว ยังไงก็ขอฝากสาวปิ่นไว้ในอ้อมอกอ้อมใจแฟน ๆ ด้วยนะจ๊ะ.

เรื่อง-ภาพ : สมคิด แซ่คู