ในขณะที่ฝรั่งเศสเพิ่งประสบความสำเร็จอย่างสูงกับการเป็นเจ้าภาพโอลิมปิก ปารีส เกมส์ 2024 แต่สำหรับศึกฟุตบอลลีกเอิง หรือลีกสูงสุดของฝรั่งเศส พวกเขากำลังเจอความท้าทายหนักอึ้งกับอนาคตที่รออยู่ข้างหน้า

ย้อนไปช่วงกลางเดือนที่แล้ว สมาคมฟุตบอลฝรั่งเศสยังคงวุ่นวายกับหาเครือข่ายที่จะมาถ่ายทอดสดการแข่งขันระหว่างปี 2024-29 ต่อจากสัญญาเดิมกับ “มีเดีย โปร” ที่เคยยอมจ่าย 624 ล้านยูโรต่อปี เพื่อลิขสิทธิ์ปี 2020-2024

รอบนี้พวกเขาตั้งความหวังว่าค่าลิขสิทธิ์ไว้ถึง 1 พันล้านยูโร แต่มันก็ไม่เป็นดังคาด

“กานัลปุส” ที่เคยมีสายสัมพันธ์อันดียังโกรธไม่หายที่สมาคมฟุตบอลฝรั่งเศสเลือกขายลิขสิทธิ์ให้บริษัทอื่นในครั้งก่อน ก็เลยพาลไม่คิดจะซื้อครั้งนี้ด้วย

มิหนำซ้ำการย่ำเท้าเดินสะบัดตูดออกจากปารีส แซงต์ แชร์กแมง ของคีลิยัน เอมบัปเป กลายเป็นดาบสองที่ทำให้นักการตลาดมองว่ามูลค่าลีกเมืองน้ำหอมลดลงไปอีก

เท่ากับว่านักเตะที่มีพลังดูดเงินระดับแม่เหล็กหายไปหมด อย่างก่อนหน้านั้นก็ ลิโอเนล เมสซี และ เนย์มาร์

ดังนั้นในที่สุดลีกเอิงก็จำยอมรับข้อเสนอของ ดาโซน และบีอินสปอร์ตส์ ในราคาลดแล้วเหลือราว 500 ล้านยูโรต่อปี หรือลดลง 13%

ข้อตกลงนี้ทำให้ลีกเอิง ยิ่งตามหลังลีกชั้นนำอื่นๆ ในแง่ของรายได้จากการออกอากาศแบบสุดกู่ เช่น ลา ลีกา รับปีละ 990 ล้านยูโร, กัลโช เซเรีย อา ปีละ 1 พันล้านยูโร, บุนเดสลีกา ปีละ 1.1 พันล้านยูโร และ พรีเมียร์ลีก ครองแชมป์โกยรายได้ถึงปีละ 1.75 พันล้านยูโร

น่าสนใจอย่างยิ่งว่าลีกเอิงจะสามารถหาจุดขายที่จะทำให้พวกเขาได้รับความสนใจมากกว่านี้ได้อย่างไร?

เปแอสเช ที่เคยเป็นทีมซื้อซูเปอร์สตาร์ แต่บัดนี้ก็เปลี่ยนแนวทางหันไปลงทุนกับนักเตะอายุน้อยมากขึ้น ในขณะที่ทีมอื่นๆ ก็ยังคงเป็นรูปแบบของการสร้างนักเตะขึ้นมาเพื่อขาย

การมีรายได้น้อยลงจะส่งผลต่อการพัฒนาลีกให้เติบโต ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อสโมสรต่างๆ ตลอดจนคนทำงานที่อาจสูญเสียรายได้ไปจนถึงระบบเศรษฐกิจของประเทศ

ไม่นานมานี้ บอร์กโดซ์ อดีตแชมป์ 6 สมัย เพิ่งเหลือแต่ชื่อ หลังเจอปัญหาการเงินรุมเร้าจนต้องประกาศยุบสโมสร สิ้นสุดสถานะสโมสรอาชีพ

น่าติดตามว่าจะมีปรากฎการณ์สโมสรฟุตบอลที่ล้มลงหมดปัญญาลุกขึ้นแบบนี้อีกหรือไม่.

เฮียเอง