เมื่อวันที่ 6 ส.ค. นายวรัท พฤกษาทวีกุล รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ทำหน้าที่เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วยนายปัญญาวัจน์ พงษ์พิละ หัวหน้ากองสำรวจและเอกสารสิทธิภาคใต้ ได้รับมอบหมายจากผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ในฐานะเจ้าหน้าที่เวนคืน ลงนามสัญญาโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์อันมีค่าตอบแทน ระหว่าง สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) กับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เพื่อดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวเป็นไปตามที่ได้มีประกาศใช้บังคับพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในพื้นที่บางส่วนในท้องที่เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ, อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ, อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา, อ.เมือง อ.ศรีราชา อ.บางละมุง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี และ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน พ.ศ. 2562 ได้แก่ สนามบินดอนเมือง สุวรรณภูมิ และอู่ตะเภา ครอบคลุมพื้นที่ที่ดินอสังหาริมทรัพย์ของ สลช.

นายวรัท กล่าวต่อไปว่า ทั้งนี้ รฟท. ได้ติดต่อเพื่อขอโอนกรรมสิทธิ์พื้นที่ดังกล่าว ซึ่งคณะกรรมการบริหารลูกเสือแห่งชาติไม่ขัดข้อง โดย รฟท. มีค่าตอบแทนการโอนกรรมสิทธิ์ดังกล่าว อาทิ ค่าตอบแทนที่ดิน ค่าตอบแทนโรงเรือนหรือสิ่งปลูกสร้าง ค่าตอบแทนไม้ยืนต้น ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่าง ๆ รวมกว่า 20 ล้านบาท ซึ่งทาง สลช. จะนำไปพัฒนากิจการต่าง ๆ ของ สลช. เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

“การสร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง ถือเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ช่วยให้การเดินทางสะดวกรวดเร็ว เป็นเส้นทางยุทธศาสตร์สำหรับการเชื่อมต่อการลงทุน และในขณะเดียวกัน ก็ยังทำให้บุคลากรกระทรวงศึกษาธิการเดินทางสัญจรได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ถือเป็นการเชื่อมต่อเส้นทางระหว่างบ้านและสถานศึกษา หวังเป็นอย่างยิ่งว่า รฟท. จะสามารถใช้พื้นที่ที่เราได้โอนกรรมสิทธิ์ให้นั้นอย่างคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อสร้างเส้นทางการเดินทางในอนาคตของเยาวชนไทย อนาคตของคนไทย และอนาคตของประเทศไทยต่อไป” รองปลัด ศธ. กล่าว