หลังจาก TEMU เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซขายของออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จใน ตลาด สหรัฐอเมริกา และฝั่งยุโรป ได้เข้ามาเปิดตลาดทำธุรกิจอีคอมเมิร์ซในไทย อย่างเงียบๆ ไม่ได้มีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว แต่อย่างไร แต่ได้สร้างความตื่นตัวให้ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยอย่างมาก
โดยเฉพาะความกังวลที่ว่าจะส่งผลกระทบต่อตลาดอีคอมเมิร์ซ เป็นวงกว้าง ตลอดไปจนถึง โรงงานผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทย
ล่าสุด นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Creden.co และ PaySolutions ผู้เชี่ยวชาญด้านอีคอมเมิร์ซ และที่ปรึกษาและนายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย (สมาคมอีคอมเมิร์ซไทย) ได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัว เสนอแผนสู้กลับทุนจีนต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แนะรัฐควรใช้แผน “ตั้งรับ – จับมือ – รุกกลับ” โดยข้อความระบุว่า
เห็นท่านนายกฯ สั่งการ หน่วยงานต่างๆ ของภาครัฐให้รับมือกับการมาของ Temu ผมเองในฐานะเอกชน ประชาชนที่ศึกษาเรื่องนี้ เลยขอทำแผนข้อเสนอที่รัฐและเอกชนไทย ควรจะทำและแนวปฏิบัติ (ดูได้ในภาพ)
จริงๆ ไม่ใช่กับ Temu เท่านั้น แต่รวมไปถึง ผู้ค้าขายผ่านออนไลน์ทั้งหลาย ที่ไหลบ่าทะลักเข้ามาในไทย … พวกเค้าควรทำให้ถูกต้อง และเป็นระเบียบ เพื่อความเท่าเทียมกันกับ ผู้ประกอบการไทย
แต่สิ่งเหล่านี้ ไม่ได้ “หยุดการไหลบ่าของสินค้าจากต่างประเทศเข้ามาได้นะครับ” สิ่งที่สำคัญที่รัฐบาลจะต้องทำคือ “การมองภาพรวมของปัญหานี้” และหาแนวทางแก้ไขที่เป็นระบบ ทำงานกับเอกชน ในแนวทางที่ผมคิดไว้คือ “ตั้งรับ – จับมือ – รุกกลับ” (ดูรายละเอียดได้ในภาพแนบ)
ทั้งนี้ นายภาวุธ ได้เสนอ แผนตั้งรับ อาทิ ศึกษาผลที่เกิดขึ้นตอนนี้ของการมาของธุรกิจจีนในทุกด้านอุตสาหกรรม โดยทำร่วมกับสถาบันวิจัยของไทย
เข้มงวดกับกฎหมายและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ต้องออกกฎหมายใหม่ที่ปกป้องเป็นธรรม และมาตรฐานโลกกับธุรกิจไทย รวมถึงผลักดัน มาร์เก็ตเพรส ประเทศไทย คือ ดีมาร์เก็ต ที่มีอยู่แล้วในแอปเป๋าตังค์
แผนจับมือ ให้จับมือกับเอกชน รัฐบาล ผู้ประกอบการ สมาคมฯ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจับมือปรึกษาหาแนวทางกับรัฐบาลจีนถึงปัญหาที่เกิดขึ้น นอกจากนี้ต้องสร้างความแข็งแกร่งของเอกชนไทยให้แข็งแกร่งมากขึ้นนำเทคโนโลยีไทยสนับสนุนคนไทย และคนไทยมีเทคโนโลยีดีๆมากมายเช่น Start Up
แผนรุกกลับ สนับสนุนธุรกิจไทยรุกออกนอกประเทศไปยังต่างประเทศรวมไปถึงอาเซียนผ่านทางออนไลน์ ร่วมมือกับแพลตฟอร์มต่างประเทศ (Coss Border) พัฒนานักรบดิจิทัล กลุ่มบริษัทไทยที่มีความเชี่ยวชาญนำพาสินค้าไทยออกนอกประเทศ และสนับสนุน ปรับกฎหมาย ใช้ทรัพยากรที่มี ผลักดันสินค้าไทยผ่านทางออนไลน์ E- Cossboarder)
นอกจากนี้ สำหรับสิ่งที่รัฐควรทำกับ TEMU และ ผู้ค้าต่างประเทศรายอื่นๆ ที่ ขายผ่านออนไลน์เข้ามาโดยไม่มีบริษัทไทย อาทิ ให้ TEMU มาขึ้นทะเบียน ภาษีอี-เซอร์วิส กับกรมสรรพากร และชวนมาใช้ระบบชำระเงินของประเทศไทย โดย ธนาคารแแห่งประเทศไทย( ธปท.) ชวนมาเปิดบริษัทในประเทศไทย โดยกระทรวงพาณิชย์ และขึ้นทะเบียนดิจิตอลแพลตฟอร์มเพื่อป้องกันประชาชน โดย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ เอ็ตด้า ฯลฯ
