จากกรณี ”เดลินิวส์” ได้เสนอข่าวปัญหาการถือครองที่ดินของรัฐ และการประกอบธุรกิจวิลล่าหรูให้เช่าของชาวต่างชาติบนเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี มาอย่างต่อเนื่อง จนนำไปสู่การตรวจสอบของ กอ.รมน.ภาค 4 และพบปัญหาความรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยมีการประเดิมกล่าวโทษเอาผิดการก่อสร้างวิลล่าหรู จำนวน 53 หลัง บนเขาเฉวงน้อย พื้นที่ หมู่ที่ 3 ต.บ่อผุด ต่อ พนักงานสอบสวน บก.ปทส. ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 31 ก.ค. นายประกิจ แก้วประเสริฐ วิศวกรโยธา ชำนาญการ เทศบาลนครเกาะสมุย นำคำสั่ง ประกาศเทศบาลนครเกาะสมุย เรื่อง การกำหนดวันเข้าทำการรื้อถอนอาคาร เข้าปิดอาคารที่พัก 2 แห่ง ตั้งอยู่หมู่ที่ 1 ต.แม่น้ำ กับหมู่ที่ 2 ต.บ่อผุด ลงนามโดยนายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ใจความว่า ตามที่ เทศบาลนครเกาะสมุย ในฐานะเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ได้มีคำสั่ง ค.6 เลขที่ 110/2566 และคำสั่งที่ ค.6 เลขที่ 113/2566 ลงวันที่ 27 ก.พ. 66 ตามลำดับ และแจ้งให้เจ้าของอาคารที่พักทั้ง 2 แห่ง รื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างที่ก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานท้องถิ่น และไม่สามารถอนุญาตให้ก่อสร้างหรือแก้ไขให้ถูกต้องได้ และกำหนดให้รื้อถอนอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่รับทราบคำสั่ง โดยเทศบาลนครเกาะสมุยได้ปิดคำสั่ง ณ อาคารหรือสิ่งปลูกสร้างเมื่อวันที่ 6 มี.ค. 66 ปรากฏว่าบัดนี้ได้ล่วงเลยระยะเวลาดังกล่าวแล้ว แต่เจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคาร หรือสิ่งปลูกสร้างยังเพิกเฉยไม่มีการรื้อถอนแต่อย่างใด จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 43 วรรคหนึ่ง (2) แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 เทศบาลนครเกาะสมุย จึงขอประกาศรื้อถอนอาคารดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 8 ส.ค. 67 ตั้งแต่เวลา 10.00 น. เป็นต้นไป โดยเจ้าของหรือผู้ครอบครองอาคารจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนอาคารดังกล่าว ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และไม่เป็นการกีดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ จึงขอให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องโปรดหลีกเลี่ยงไม่เข้าไปบริเวณดังกล่าว ประกาศ ณ วันที่ 31 ก.ค. 67
ด้านนายพัลลภ มีเพียร นิติกรชำนาญการเทศบาลนครเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สำหรับอาคารทั้ง 2 หลัง ที่เจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการปิดประกาศอาคารรื้อถอน ในวันที่ 8 ส.ค. นั้น เป็นอาคารที่ทางเทศบาลนครเกาะสมุย ได้แจ้งให้ผู้ครอบครองอาคารดำเนินการรื้อถอนไปแล้ว เนื่องจากเป็นการก่อสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ตั้งแต่เดือน เม.ย. 66 แต่ปรากฏว่าเจ้าของอาคารไม่ดำเนินการตามคำสั่งทางปกครอง รวมถึงไม่ได้มีการอุทธรณ์คำสั่งหรือดำเนินการแก้ไขใดๆ และก่อนหน้านี้เราได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด ให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้อง ในข้อหา ก่อสร้างอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต และข้อหาขัดขืนคำสั่งเจ้าพนักงาน
นายพัลลภ กล่าวด้วยว่า ตามประกาศคำสั่งซึ่งลงนามโดยนายกเทศมนตรี เทศเทศบาลนครเกาะสมุย เมื่อครบกำหนดในวันที่ 8 ส.ค. ส่วนโยธาฯ เทศบาลนครเกาะสมุย ก็จะเข้าดำเนินการประเมินค่าใช้จ่าย และวิธีการในการรื้อถอน เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาว่าเทศบาลนครเกาะสมุย สามารถดำเนินการได้ด้วยตนเองหรือไม่ ซึ่งหากอยู่ในเขตความสามารถของเทศบาล เทศบาลนครเกาะสมุยก็สามารถดำเนินการได้ทันทีพร้อมทั้งนำรายงานค่าใช้จ่ายเรียกเก็บจากเจ้าของอาคาร แต่หากเจ้าของอาคารไม่ชดใช้ ก็จะใช้กระบวนการทางศาลดำเนินการฟ้องร้องต่อไป แต่หากเกินขีดความสามารถอาจจะต้องมีการประมูลราคาเพื่อหาผู้รับจ้าง ในขั้นตอนนี้อาจต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง
“ล่าสุดนายรามเนตร ใจกว้าง นายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย ได้มีข้อกำชับสั่งการ และวางแนวทางปฏิบัติ ไปยังงานโยธาธิการ ให้ควบคุมดูแลการก่อสร้าง ให้เป็นไปตามใบอนุญาตทุกราย โดยนายช่างเขตฯ จะต้องติดตามการก่อสร้างและรายงานผลตรงต่อนายกเทศมนตรีในทุกๆ 7 วัน จนกว่าการก่อสร้างจะแล้วเสร็จ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาอย่างที่เป็นมาในอดีต ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหากเจ้าของสถานที่หรือผู้ได้รับใบอนุญาตดำเนินการก่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราจึงใช้คำสั่งทางปกครองในการเข้ารื้อถอนในทางปฏิบัติมีขั้นตอนวิธีการที่ยุ่งยาก และต้องใช้เวลา จนทำให้ถูกมองว่ากฎหมายอ่อนแอและไม่สามารถเอาผิดกับผู้ที่ฝ่าฝืนได้” นายพัลลภ กล่าว.