สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 28 ก.ค. ว่ากระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา รายงานว่า เครื่องบินรบของกองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ โรงเรียนในเมืองเดอีร์ อัล-บาลาห์ ทางตอนกลางของฉนวนกาซา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 30 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บมากกว่า 100 คน โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นพลเรือนซึ่งเข้าไปหลบภัยยู่ในโรงเรียน


ขณะที่กองทัพอิสราเอลออกแถลงการณ์ ยืนยันปฏิบัติการโจมตีโรงเรียนแห่งดังกล่าวจริง เนื่องจากเป็นสถานที่กบดานของสมาชิกกลุ่มฮามาส และกลุ่มฮามาสยังใช้โรงเรียนแห่งนี้เป็นคลังแสงอาวุธด้วย


อีกด้านหนึ่ง กองทัพอิสราเอลรายงานว่า เด็กและวัยรุ่นอายุระหว่าง 10-20 ปี อย่างน้อย 12 ราย เสียชีวิต จากการโจมตีของจรวดลูกหนึ่ง ซึ่งมีการยิงมาตกลงบนสนามฟุตบอล ที่หมู่บ้านมาจดาล แชมส์ บนที่ราบสูงโกลันส่วนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของอิสราเอล และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 18 คน ทั้งหมดเป็นเด็กและวัยรุ่น

เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงและเจ้าหน้าที่กู้ภ้ยอิสราเอลลำเลียงร่างผู้เสียชีวิต ออกจากสนามฟุตบอลบนที่ราบสูงโกลัน หมู่บ้านมาจดาล แชมส์ บนที่ราบสูงโกลัน

หลังเกิดเหตุกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งมีฐานที่มั่นอยู่ทางตอนใต้ของเลบานอน ยืนยันไม่ได้เป็นผู้ยิงจรวดโจมตีสนามฟุตบอลแห่งนั้น อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ผู้นำอิสราเอล ประณามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างหนัก และกล่าวว่า กลุ่มฮิซบอลเลาะห์ต้องชดใช้อย่างสาสมที่สุด


ด้านรัฐบาลเลบานอนออกแถลงการณ์ประณามการโจมตีนองเลือดที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับสหรัฐและสหภาพยุโรป ( อียู ) พร้อมทั้งขอให้คู่กรณีทุกฝ่ายอดกลั้นอย่างสูงสุด ส่วนนายทอร์ เวนเนสลันด์ ผู้ประสานงานพิเศษด้านกิจการสันติภาพตะวันออกกลางของสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) กล่าวว่า ภูมิภาคตะวันออกกลาง “อยู่บนปากเหว” และทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องไม่ควรเปิดแนวรบใหม่อีก.

เครดิตภาพ : AFP