สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ว่าในปี 2566 อัตราการเกิดในญี่ปุ่นลดลงต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อยู่ที่ 730,000 คน และการเสียชีวิต 1.58 ล้านราย ถือเป็นสถิติที่สูงที่สุด โดยประชากรญี่ปุ่นอยู่ที่ 124.9 ล้านคน ณ วันที่ 1 ม.ค. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี ข้อมูลของกระทรวงกิจการภายในของญี่ปุ่นระบุว่า ประชากรชาวต่างชาติซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 11 ช่วยให้จำนวนประชากรกลุ่มนี้เพิ่มเป็นมากกว่า 3 ล้านคนเป็นครั้งแรก
ปัจจุบัน ชาวญี่ปุ่นอายุระหว่าง 15-64 ปี คิดเป็นเกือบร้อยละ 3 ของประชากรทั้งหมด ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า คนญี่ปุ่นรุ่นใหม่ลังเลกับการแต่งงานหรือมีบุตรมากขึ้น เนื่องจากโอกาสหางานทำที่ยาก, ค่าครองชีพสูง และวัฒนธรรมองค์กรที่ลำเอียงทางเพศ ซึ่งเพิ่มภาระให้ผู้หญิงและคุณแม่วัยทำงาน
ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณปี 2567 ประมาณ 5.3 ล้านล้านเยน (ราว 1.2 ล้านล้านบาท) เพื่อจูงใจให้คู่สามีภรรยาหนุ่มสาวมีบุตรมากขึ้น ผ่านการเพิ่มเงินอุดหนุนค่าเลี้ยงดูบุตรและการศึกษา มากไปกว่านั้น มีการคาดว่า ภาครัฐจะใช้เงินภาษี 3.6 ล้านล้านเยน (ราว 843,078 ล้านบาท) เพื่อการนี้ ในช่วง 3 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มาตรการดังกล่าวมีไว้สำหรับคู่สามีภรรยาซึ่งวางแผนจะมีบุตรหรือมีบุตรแล้ว และไม่ได้แก้ไขปัญหาจำนวนคนหนุ่มสาว ซึ่งลังเลที่จะแต่งงานเพิ่มมากขึ้น และมีการประเมินว่า ประชากรของญี่ปุ่นจะลดลงประมาณร้อยละ 30 เหลือ 87 ล้านคนภายในปี 2613 ซึ่งในจำนวนนี้ 4 ใน 10 คนจะมีอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES