ไม่พูดถึงไม่ได้เลยในนาทีนี้สำหรับ “สืบสันดาน (Master of the House)” ซีรีส์แนวลึกลับดราม่า เมื่อเจ้าพ่อธุรกิจเพชรตายอย่างปริศนา สงครามเฉือนคมเพื่อแย่งชิงกองมรดกจึงปะทุขึ้นระหว่างเหล่าทายาทผู้เหี้ยมโหดกับสาวใช้ที่พ่อของพวกเขาเพิ่งแต่งงานด้วย งานนี้ทำเอาหลายคน พอได้เห็นทีเซอร์และตัวอย่างแล้วก็พากันอยากรู้จุดเริ่มต้นของเรื่องและจุดจบที่หลายคนบอกหักมุมและไม่น่าเชื่อกันอย่างมากมาย
ล่าสุด yimyim ก็ไม่พลาดสักกระแสในวงการบันเทิงเลยเพราะเราได้คว้าตัวนักแสดงนำทั้งสองคนอย่าง บี๋ ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์ และ ญดา นริลญา กุลมงคลเพชร และผู้กำกับมากฝีมือ กานต์ ศิวโรจณ์ คงสกุล มาร่วมไขปริศนาและเปิดปมที่มาที่ไปของเรื่องนี้กัน
ทักทายแฟน ๆเดลินิวส์สักหน่อย?
ญดา “สวัสดีแฟน ๆ เดลินิวส์นะคะ ญดานะคะรับบทเป็นไข่มุกค่ะ”
กานต์ “ผมกานต์ ศิวโรจน์ครับ ผู้กำกับครับ”
บี๋ “สวัสดีแฟน ๆ เดลินิวส์นะครับ ธีรพงศ์ เหลียวรักวงศ์ รับบทเป็นเจ้าสัวรุ่งโรจน์ครับ”
อย่างพี่บี๋และน้องญดาเอง ทำไมตัดสินใจเล่นเรื่องนี้?
บี๋ “จริงๆผมว่าบทคาแรคเตอร์ของผมก็สำคัญเหมือนกันพอเค้าเล่าว่ามันเป็นยังไงอะไรยังไงก็ฟังดูแล้วก็น่าสนใจ บทนี้ผมก็ไม่เคยเล่นมาก่อนก็เลยตัดสินใจรับเล่นตัวนี้
ญดา “เพราะว่าตัวคาแรคเตอร์ไข่มุกเป็นตัวละครใหม่ที่หนูไม่เคยได้รับบทบาทแบบนี้มาก่อน
แล้วรู้สึกว่าเป็นความยาก ความท้าทายกับนักแสดงรุ่นใหม่อย่างหนูก็เลยตัดสินใจรับเล่นเลยแล้วก็อีกเหตุผลก็คือเพราะว่าเป็นโปรเจกต์ที่ทำร่วมกันระหว่าง Netflix แล้วก็กันตนาด้วยค่ะ แล้วก็มีพี่กานต์เป็นผู้กำกับ รวมถึงได้เจอกับนักแสดงท่านอื่น ๆ ที่เป็นนักแสดงที่เราคุ้นน่าคุ้นตาแล้วมีฝีมือมาก ๆก็ไม่รู้จะปฏิเสธทำไมค่ะ”
อยากให้ทั้งสองคนเล่าถึงคาแรคเตอร์ตัวละครที่เราได้รับว่าเป็นยังไง?
บี๋ “คาแรคเตอร์ของตัวเจ้าสัวรุ่งโรจน์ก็เบื่อหน่ายกับการที่ลูกหลานต้องทะเลาะกันทุกวี่ทุกวัน
อยากจะมีโลกส่วนตัวของตัวเอง ก็เลยมี Hobby ขึ้นมา ตัวเจ้าสัวเองได้หลุดไปอีกโลกนึง
จากความวุ่นวายของครอบครัวแล้วก็ไปพบรักอีกครั้งนึงครับ”
ญดา “ตัวละครไข่มุกก็เป็นเด็กผู้หญิงคนนึงที่ต้องทำมาหากินเลี้ยงชีพ เลี้ยงตัวเอง
ก็ไปสมัครทำงานที่บ้านหลังนึง ซึ่งได้เงินเดือนค่อนข้างสูงกับเด็กจบใหม่ก็เลยรู้สึกว่ามันตอบโจทย์เพราะว่าก็เป็นเด็กที่หาเงิน พอเข้าไปในบ้านเนี่ยก็ต้องสวมบทบาทใหม่จากเด็กผู้หญิงคนนึงที่เป็นเด็กธรรมดา ๆ ต้องถูกเปลี่ยนไปเป็นบทบาทของสาวรับใช้ค่ะ ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายที่หนูต้องรับมือกับตัวละครไข่มุกเหมือนกัน เพราะว่ามันไม่ใช่แค่ตัวละครที่เป็นเด็กผู้หญิงคนนึง สดใส มีชีวิตนั่นนู่นนี่แต่ว่าต้องถูกครอบงำด้วยอาชีพ ด้วยบทบาทบางอย่างที่มันต้องทำการเรียนรู้กัน (หัวเราะ) หนูก็ไม่เคยเป็นมาก่อน”
อย่างพล็อตเรื่องนี้เหมือนมันเป็นรสชาติที่คนไทยคุ้นเคย ต้องปรับยังไงให้มันถูกปากคนไทยที่สุด?
กานต์ “ก็พูดตรง ๆว่าผมวิ่งหาความสดใหม่ วิ่งหาแสง สี เสียงที่มันตื่นเต้นกับพวกเรา หลาย ๆ ครั้งนักแสดงก็โยนคำถาม โยนความคิดใหม่ ๆ เข้ามาที่มันเสริมบทอีกด้วยซ้ำ ว่าเราไปทางนี้กันดีไหม ซึ่งอันนั้นผมไม่เคยตั้งกำแพงเลย ผมบอกว่าไปเลย ยินดี ต้องไปเลยด้วยซ้ำ ไปได้เลย ลองก่อน ส่วนใหญ่ผมจะชอบพูดอย่างงี้ ลองเลย เพราะผมรู้สึกว่ามันไม่เคยมีใครออกกฎว่าถ้าเป็นซีนแบบนี้ก็เลยต้องถ่ายทำแบบนี้เท่านั้น ห้ามทำแบบอื่นเลย ถ้าทุกคนทำเหมือนกัน 100 คน ถ้าผู้กำกับทำแบบนั้นซ้ำ 15 ปี 20 ปี เค้าเองมากกว่าที่จะเบื่อแล้วก็เลิกทำ จริง ๆ ทุกคนควรหาอะไรทดลองแล้วเติมเชื้อไฟเข้าไปในหัวใจตัวเอง ซึ่งสืบสันดารถ้าใครบอกว่าเดี๋ยวดูซิรสชาติ ทำไมมันพล็อตเรื่องแมสที่ผู้คนเห็นกันทั่วแล้วและเข้าใจมันง่ายมาก แต่เดี๋ยวลองดูว่าทำไมรสชาติมันไม่ซ้ำคนอื่น ทำไมมันมีอะไรที่น่าสนใจอยู่ในนั้น ก็เพราะประมาณนี้ พวกเราโยนกันเป็นทีมเวิร์ค แล้วอย่างที่พี่บอกว่าพี่ไม่อยากใช้นักแสดงที่ซ้ำ ๆ เป็นนักแสดงคนใหม่ ๆ หมดส่วนตัวผมคิดว่าศักยภาพนักแสดงไทยมีความสามารถกันเต็มไปหมดเลย พี่ ๆ เก่ง ๆ รุ่นเก่า ๆ คนเก่ง ๆ เยอะมากแต่ว่าบางจังหวะของดี ๆนั้นไม่ค่อยได้ถูกปล่อยพลังออกมาในพื้นที่ที่มันอิสระพอ เพราะว่ามันเป็นโจทย์หลาย ๆ อย่างที่ครอบ ไม่ว่าจะข้อจำกัดเวลา หรือครีเอทีฟบางอย่างที่มันยึดติดกันว่ายังไงซีนแบบนี้ก็จะต้องเป็นแบบนี้เท่านั้น อันนี้มันเลยเป็นความท้าทายที่รู้สึกว่าเดี๋ยวลองดูดิ จริง ๆพวกเค้ายังไม่ได้ปล่อยพลังโชว์ผู้ชมที่ผ่านมาในงานเก่า ๆ เค้าด้วยซ้ำ บางทีเออเราคิดอย่างนั้น ซึ่งหลาย ๆครั้งก็ทุก ๆ คนทำได้ดีมาก”
พูดถึงพาร์ทการถ่ายทำนิดนึง ระหว่างญดากับพี่บี๋เราคิดว่าฉากไหนหรือว่าซีนไหนที่เราต้องสื่ออารมณ์ยากเป็นพิเศษบ้าง เล่าให้ฟังหน่อย?
บี๋ “ยากทุกซีนครับ แม้กระทั่งซีนเล็ก ๆ ก็ยังยากครับ ยากในที่นี้คือทำยังไงให้เจ้าสัวดูอบอุ่น
ทำยังไงให้คนดูเห็นว่าเจ้าสัวหลงรักสาวใช้คนนี้อย่างจัง คือหลาย ๆอย่างมันก็ต้องใช้อารมณ์ ณ
โมเมนต์นั้น แล้วก็ใช้อารมณ์ของนักแสดงอย่างน้องส่งกลับสำคัญมาก ถ้าไม่ส่งเราก็เล่นไม่ได้เหมือนกันเราก็ไปไม่ถึงจุดที่ผู้กำกับต้องการ”
ญดา “ถ้าเป็นซีนที่มันค่อนข้างยากแล้วก็ใช้เวลาในการถ่ายทำนานก็น่าจะเป็นพวกฉากแบบ Long take ถ่ายแบบถ่ายไปเลยทีเดียวยาว ๆ ซึ่งมันต้องใช้สมาธิมาก ๆมันไม่ใช่แค่กับนักแสดงแต่มันทีมงานเบื้องหลังด้วย ตากล้อง เรามักจะยกตัวอย่างฉากนี้กันทุกครั้งเพราะมันเป็นฉากที่ Impact กับพวกเราคนทำงานมาก ๆ แล้วก็ Impact กับคนดูด้วยคือฉากที่มันเป็น Transition ระหว่างงานศพมาสู่งานวันเกิดค่ะ ซึ่งฉากนี้มันต้องใช้เวลาการถ่ายทำกันแบบนานมากจริง ๆ แล้วเราซักซ้อมกันอย่างนานเลย สำหรับส่วนตัวของหนู ส่วนที่ยากมันก็เป็นเรื่องของการแสดงนี่แหละเพราะว่าส่วนอื่น ๆ ก็คือมีพี่คนอื่นๆ รับผิดชอบหน้าที่อยู่แล้ว ของหนูคือหนูมีจังหวะการเปลี่ยนอารมณ์แค่จังหวะกระพริบตาเดียวแล้วลืมตาขึ้นมามันต้องกลายเป็นเหมือนวันใหม่หรือว่าเป็นอีกหนึ่งความรู้สึกนึงเลยที่ต่างกันแบบสุดขั้วจากงานศพมาเป็นงานวันเกิดของคน ๆ
เดียวกันที่เป็นคนสำคัญของเราในชีวิต หนูก็คือข้างในเราก็ว่าเราสามารถที่จะ Control ได้แต่ว่าภายนอกค่ะ พอมันเป็นงานศพเราก็น้ำตาคลอ ๆ มาใช่ไหมคะ แล้วมันต้องกระพริบตาเดียวแล้วลืมตาขึ้นมาต้องแบบให้น้ำตามันหายไปเหมือนแบบไม่เคยมีความทุกข์ ไม่เคยมีน้ำตาหล่อเลี้ยงอยู่ในเบ้าตาเลยมันยากมากสำหรับหนู ก็ไม่รู้ทำไงเหมือนกันตอนนั้นออกมาเป็นยังไงแต่ก็โอเคนะ”
อย่างพี่บี๋เองกลับมาเล่นกับนักแสดงทั้งรุ่นใหม่แล้วก็เคยเจอกันมาแล้วคนไหนเก่งสุดๆ ช่วยรีวิวหน่อย?
บี๋ “โหก็ทุกคนนะครับ ทุกคนที่ผมได้ร่วมงานด้วยครั้งนี้ผมค่อนข้างที่จะอึ้งในบทบาทของเค้านะชายกับแก๊ปก็เคยเล่นละครด้วยกันมาก่อนก็รู้ทางและมองเห็นชัดว่าเค้าก็มาไกลมากแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งน้องญดา ที่เราคิดว่าเค้าเป็นน้องใหม่ในวงการ แต่ว่าฝีมือนั้นแบบเหมือนจะโชกโชนครับ มีสวิตซ์พิเศษเปิดให้กลายเป็นไข่มุกได้เดี๋ยวนั้นเลย พอเค้าเป็นก็เหมือนส่งมาให้ผมตัวผมก็ปรับจูนเป็นเจ้าสัวได้ทันที นี่คือการ Acting ที่สำคัญมาก การส่งให้นักแสดงทุกคนเค้าถึงจะเล่นได้ ถ้ามาเป็นแบบท่องบทมาพูดที แบบอย่างนี้ตาย ผมก็ตายเหมือนกัน ถึงจะโปรก็ตายหมดเลยนะ”
สำหรับเรื่องนี้ เราทุกคนคาดหวังกับเรื่องนี้ยังไงบ้าง?
กานต์ “ผมก็อยากให้ทุกคนช่วยเชียร์แหละงานทุกชิ้นที่เราทำ ก็อยากให้ผู้ชมชอบแล้วก็เวลาผู้ชมชอบเราได้กำลังใจไปพัฒนางานชิ้นต่อ ๆไปกันอีกแล้วตรงนั้นแหละมันทำให้อุตสาหกรรมเคลื่อนไหวและแข็งแรงขึ้นคืองานชิ้นนี้ฟังมาก็รู้ว่าทุกคนตั้งใจและใส่ใจทำงานกันมากก็เดี๋ยวรอดูว่ารสชาติจะเป็นยังไงครับ”
ญดา “หนูว่าคนดูน่าจะได้ข้อคิดที่แตกต่างกันออกไปค่ะ เพราะว่าแต่ละคนเวลาที่ดูสมมติว่าเราดูงานอาร์ทชิ้นนึง แต่ละคนก็จะมองเห็นภาพภาพนั้นหรือสิ่งปั้นอันนั้นมันออกมาในรูปร่างที่มันต่างกันซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นเหมือนกันค่ะ แล้วที่สำคัญคือหนูชอบที่องค์ประกอบโดยรวมมันกลับกลายเป็นรสชาติที่ถูกปากคนไทย หนูเชื่อว่ามันมีทั้งความแมสแล้วก็ความสดใหม่ด้วยอยากให้ทุกคนได้ดูค่ะ ถ้าเกิดหนูเป็นเพื่อนกับทุกคนที่กำลังรับชมอยู่ตอนนี้ก็คือพูดแบบจริงใจเลยว่ามันสนุกจริง ๆ ค่ะ”
บี๋ “เรื่องนี้พิเศษทุกอย่างครับ อยากให้ลองเข้ามาชมกันทาง Netflix ครับ ฝากด้วยนะครับ”
จริงๆยิ่งได้คุยกับนักแสดงและผู้กำกับทั้งสามคนแล้วก็ยิ่งรู้สึกว่าการวงการบันเทิงของไทย ได้ก้าวข้ามคำว่า ดารา ไปแล้วจริงๆ เพราะทุกครั้งที่ตัวละครได้สวมบทบาทเป็นนักแสดงนั่นหมายความว่าเขาเป็นตัวละครนั้นแล้วจริงๆ และเรื่องนี้ก็คิดว่าทุกคนน่าจะได้ลิ้มรสของนักแสดงที่เป็นตัวละครในเรื่องจริงๆแน่นอน ลองเปิดใจดูแล้วคุณจะรู้ว่า “สืบสันดาน” ไม่ธรรมดาจริงๆ
คอลัมน์ “1 Day With ซุปตาร์”
โดย yimyim