นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยกรณีที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ส่งหนังสือถึงที่ประชุมบอร์ดดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ แสดงความเป็นห่วงการดำเนินโครงการนั้น ไม่ได้มีการแสดงความเป็นห่วงเรื่องวินัยทางการเงินแต่อย่างใด แต่กำชับให้ดูแลเรื่องระบบ จะต้องมีความมั่นคงปลอดภัยเชื่อถือได้ และขอเวลาให้ ธปท.เข้าไปดูระบบภายใน 15 วัน ก่อนดำเนินโครงการ ซึ่งรัฐบาลก็พร้อมให้ ธปท.เข้ามาตรวจดู
ส่วนในวันที่ 1 ส.ค. 67 นี้ รัฐบาลจะเปิดลงทะเบียนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” โดยมีระยะเวลาการเปิดลงทะเบียน 45 วัน ซึ่งในวันที่ 24 ก.ค.นี้ จะมีการแถลงรายละเอียดเรื่องกรอบระยะเวลาอย่างชัดเจน รวมทั้งจะชี้แจงรายละเอียดแบบร่าง สำหรับการลงทะเบียน วิธีการใช้แอป และจะมีความชัดเจนเรื่องกลไกการตรวจสอบสิทธิ กรณีต้องการโต้แย้งสิทธิ หรืออุทธรณ์
สำหรับกลไกในการลงทะเบียนร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตนั้น รัฐบาลได้ทำระบบรองรับ ทั้งการลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ สำหรับผู้ที่มีสมาร์ตโฟน คาดว่าส่วนใหญ่ประชาชนใช้ช่องทางนี้กว่า 40 ล้านคน และกรณีไม่มีสมาร์ตโฟน หรือสมาร์ตโฟนไม่รองรับระบบอินเทอร์เน็ตนั้น จะลงทะเบียนผ่านบัตรประชาชน โดยมีเจ้าหน้าที่เตรียมดูแลในเรื่องดังกล่าว ส่วนร้านค้าก็ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐเช่นเดียวกัน คาดว่าจะมีร้านค้าร่วมโครงการกว่า 2-3 ล้านแห่ง
“กรณีผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟน หรือสมาร์ตโฟนไม่รองรับระบบอินเทอร์เน็ต สามารถใช้จ่ายได้ด้วยบัตรประชาชน อย่างไรก็ตาม ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องยืนยันโลเคชั่นที่ใช้จ่ายได้ ส่วนกลุ่มคน ทั้งร้านค้า และประชาชน ที่เคยประพฤติขัดข้อตกลงของโครงการรัฐในอดีต ซึ่งเป็นกลุ่มคนที่มีคดีความ จะไม่ได้รับสิทธิในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รวมทั้งโครงการของรัฐในอนาคต ซึ่งมีอยู่ประมาณ 2,000 ราย”
อย่างไรก็ตาม กรณีที่ท่านตรวจสอบสิทธิแล้วผลดังกล่าวไม่ตรงตามความเป็นจริง ท่านสามารถอุทธรณ์สิทธิได้ โดยรัฐบาลมีช่องทางดังกล่าวรองรับไว้ให้ประชาชน ทั้งนี้ยืนยันว่า การดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ตมีระบบบล็อกเชนสามารถตรวจสอบการทุจริตในโครงการได้ เช่น การแลกเงินสด ซึ่งรัฐบาลมีกระบวนการดูแลเรื่องทุจริตและการคอร์รัปชั่น