เมื่อเร็วๆนี้ ที่โรงพยาบาลสนาม อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ นายวัฒนา พุฒิชาติ ผวจ.ศรีสะเกษ/ประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต รอง ผวจ.ศรีสะเกษ นายสุกิจ เหลืองสกุลไทย นายอำเภอกันทรลักษ์ นายบุญประสงศ์ นวลสายย์ หัวหน้าสำนักงาน ปภ.จังหวัดศรีสะเกษ และคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมความพร้อมและมอบสิ่งของประกอบด้วย ถุงน้ำใจอุปกรณ์-สิ่งของเครื่องใช้จำเป็น สำหรับผู้ป่วย จากเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 50 ถุง และน้ำดื่มที่ได้รับมอบจากผู้มีจิตศรัทธา จำนวน 50 แพ็ก เพื่อใช้ในการดูแลผู้ป่วยและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล ภายในโรงพยาบาลสนาม อ.กันทรลักษ์ ที่เปิดรองรับผู้ป่วยระยะพักฟื้นหลังการรักษาโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่อาการไม่รุนแรง

นายวัฒนา กล่าวว่า จ.ศรีสะเกษ ตรวจพบผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ในปัจจุบันคือผู้ป่วยที่เดินทางมากจากพื้นที่เสี่ยงเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ เกิดจากการสั่งปิดแคมป์คนงาน หรือโรงงานอุตสาหกรรม และกิจการต่างๆ ที่ได้หยุดหรือปิดชั่วคราวในช่วงสถานการณ์ ทำให้พี่น้องชาวศรีสะเกษ ส่วนหนึ่งเดินทางกลับในภาวะปกติ แต่อีกส่วนหนึ่งมีติดเชื้อกลับมาด้วย แต่ก็ต้องขอบคุณส่วนหนึ่งของชาว จ.ศรีสะเกษ ที่เมื่อป่วยแล้วได้แจ้งให้กับทางเจ้าหน้าที่ทราบ ทำให้ทีมโรงพยาบาล ได้ทราบข้อมูลเบื้องต้น และได้มีการคัดแยกเพื่อจะดูแลรักษาตามลักษณะของอาการ ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเป็นการลดความเสี่ยงในการที่พี่น้องประชาชนผู้ติดเชื้อกลับเข้าบ้านหรือกลับไปชุมชน มาแล้วก็เข้าสู่ระบบการดูแลรักษาเลย

ในส่วนของโรงพยาบาลสนาม ขณะนี้ได้เปิดดำเนินการแล้ว จำนวน 2 แห่ง คือที่ อ.เมืองศรีสะเกษ และ อ.กันทรลักษ์ เพื่อที่จะดูแลคนไข้ในกลุ่มสีเขียว คือผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก อาการไม่รุนแรง และยังไม่ถึงขั้นต้องใช้เครื่องมือในการแพทย์ช่วยในการรักษา ซึ่งโรงพยาบาลสนามมีระบบความพร้อมในการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหลัก เพื่อรักษาหากมีเหตุจำเป็น ทั้งนี้ถ้าเรารู้ทั้งหมดว่ามีจำนวนผู้ป่วยจำนวนเท่าไหร่ จะทำให้บริหารง่าย เตียงไม่ว่าจะเป็นเตียงในโรงพยาบาล หรือการจัดโรงพยาบาลสนาม หรือในกรณีของการที่จะทำ ฮอสพิเทล เพื่อที่จะถ่ายเทคนที่รักษาในโรงพยาบาลอาการอาการดีขึ้นแล้ว เพื่อที่จะให้เตียงว่าง ส่วนที่รักษาดีขึ้นก็ไปอยู่ที่ฮอสพิเทล หรือโรงพยาบาลสนาม

สิ่งที่อยากฝากถึงพี่น้องประชาชนในส่วนของชุมชนที่อยู่ใกล้สถานที่ตั้งโรงพยาบาลสนาม บางสถานที่อาจจะมีความรู้สึกว่ามันใกล้ชุมชนหมู่บ้านของท่าน ทำให้ไม่สบายใจ ก็อยากจะขอชี้แจงว่า ในส่วนนี้เราดูระบบความปลอดภัยเต็มที่ ไม่มีโอกาสที่จะเกิดการแพร่กระจายออกไปอย่างแน่นอน เราทำระบบเสมือนที่โรงพยาบาลทุกอย่าง ทุกขั้นตอน ด้วยมาตรฐาน จึงขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้กังวล และเป็นความจำเป็นในเมื่อโรงพยาบาลไม่พอ เราก็จำเป็นจะต้องดูแลประชาชนของพวกเรา เจ้าของสถานที่ต่างๆ ก็ได้กรุณาเอื้อเฟื้อสถานที่ อยากให้พี่น้องชาวศรีสะเกษ ให้ความร่วมมือและมาร่วมกันดูแลพี่น้องประชาชนชาวศรีสะเกษ ด้วยกัน.