นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. จัดสินเชื่อเพื่อส่งเสริมและพัฒนาระบบเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) ระยะที่ 2 วงเงินรวม 15,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนเงินทุนให้แก่เกษตรกรและผู้ประกอบการธุรกิจเกษตรภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญา ทั้งประเภทพืชและสัตว์ให้สามารถนำไปพัฒนากระบวนการผลิต เพิ่มผลผลิตให้มีคุณภาพสูงและมีมาตรฐานรวมถึงมีตลาดรองรับที่แน่นอน ทำให้เกษตรกรมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นและสามารถประกอบธุรกิจได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน คุณสมบัติผู้กู้ ได้แก่ บุคคลทั่วไป เกษตรกร นิติบุคคล กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร ที่ประกอบธุรกิจทางการเกษตรหรือเป็นคู่สัญญากับผู้ประกอบธุรกิจทางการเกษตร โดยกู้เพื่อนำไปเป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียน ค่าลงทุนในการดำเนินโครงการ หรือชำระหนี้สินเดิมที่เกิดจากการประกอบธุรกิจภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญาที่มีสถานะหนี้ปกติ อัตราดอกเบี้ยตามประเภทลูกค้า ได้แก่ MRR (ปัจจุบัน MRR เท่ากับร้อยละ 6.975) MLR (ปัจจุบัน MLR เท่ากับร้อยละ 6.125) หรือ MOR (ปัจจุบัน MOR เท่ากับร้อยละ 7.125) ระยะเวลาชำระคืนกรณีเป็นค่าใช้จ่ายไม่เกิน 12 เดือน พิเศษไม่เกิน 18 เดือน กรณีเป็นค่าลงทุน ชำระคืนภายใน 15 ปี และสำหรับชำระหนี้สินเดิม ชำระภายใน 10 ปี พิเศษไม่เกิน 12 ปี แต่ไม่เกินกำหนดชำระตามสัญญาเดิม
ธ.ก.ส. มุ่งสู่แกนกลางการเกษตร เพื่อยกระดับภาคเกษตรไทย ด้วยการสนับสนุนเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ ควบคู่กับการเสริมสร้างอาชีพและจัดหาตลาดรองรับผลผลิตเพื่อสร้างรายได้ให้กับเกษตรกร ผู้ประกอบการธุรกิจเกษตร และยกระดับเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน โดย ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนสินเชื่อภายใต้ระบบเกษตรพันธสัญญาไปแล้ว จำนวน 2,365 ราย เป็นเงินกว่า 12,656 ล้านบาท ผู้สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ได้แล้วตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 มีนาคม 2572 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขาทั่วประเทศ และ Call Center 02 555 0555