นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า บีโอไอเตรียมเปิดสำนักงานแห่งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง ณ กรุงริยาด ประเทศซาอุดีอาระเบีย อย่างเป็นทางการ 14 กรกฎาคม 2567 ซึ่งจะเป็นสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนในต่างประเทศแห่งที่ 17 และเป็นแห่งแรกในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยจะรับผิดชอบทั้งภารกิจดึงการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายเข้าสู่ประเทศไทย และการสนับสนุนและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการไทยที่สนใจไปลงทุนในตะวันออกกลาง
ทั้งนี้บีโอไอ นำโดยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.การต่างประเทศ จะนำผู้บริหารของหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการเงิน หอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และบริษัทชั้นนำของไทยกว่า 70 คน ประชุมภาคธุรกิจ “Thai–Saudi Investment Forum” และงานเจรจาจับคู่ธุรกิจ และการลงนามข้อตกลงความร่วมมือหรือเอ็มโอยู ระหว่างไทย-ซาอุดีฯ รวมกว่า 10 ฉบับ
เลขาธิการบีโอไอ กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลไทยและซาอุดีอาระเบียได้ฟื้นความสัมพันธ์กันในปี 2565 รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้จัดคณะเดินทางเยือนซึ่งกันและกันมากกว่า 10 ครั้ง รวมทั้งเร่งสร้างความร่วมมือผ่านกลไกคณะกรรมการต่าง ๆ เพื่อแสวงหาโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน ทำให้มีแนวโน้มความสนใจลงทุนเพิ่มขึ้น
โดยประเทศซาอุดีอาระเบียมีกองทุนการลงทุนสาธารณะหรือ Public Investment Fund (PIF) ซึ่งเป็นหนึ่งในกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติที่มีการลงทุนสูงที่สุดในโลก และกำลังเร่งขยายการลงทุนในประเทศต่าง ๆ ตามวิสัยทัศน์ซาอุดีอาระเบีย 2030 (Saudi Vision 2030) ที่มีแผนพัฒนาประเทศไปสู่ความทันสมัย และสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไทย
ทั้งนี้ จะเน้นลงทุนเพิ่มเติมในสาขาโลจิสติกส์ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยี ตลอดจนให้ความสนใจเป็นพิเศษกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย เช่น ธุรกิจดิจิทัลและนวัตกรรมขั้นสูง การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ การแพทย์ เกษตรและอาหารแปรรูป พลังงานสะอาด ยานยนต์สมัยใหม่ เป็นต้น
“ไทยและซาอุดีอาระเบีย มีศักยภาพในการเป็น Twin Hub ซึ่งกันและกัน โดยซาอุฯ อาจพิจารณาใช้ไทยเป็นฐานการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียน และใช้ประโยชน์จากความตกลง RCEP ที่เป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดของโลก ขณะที่นักธุรกิจไทยสามารถใช้โอกาสจากความร่วมมือกับซาอุฯ ซึ่งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของตะวันออกกลาง ในการขยายตลาดไปสู่ทั้งภูมิภาคตะวันออกกลางที่มีประชากรมากกว่า 400 ล้านคน และมีกำลังซื้อสูง การเปิดสำนักงานบีโอไอที่ซาอุฯ ในครั้งนี้ จะช่วยสร้างความร่วมมือและผลักดันการลงทุนระหว่างกันให้มีความคืบหน้าและเกิดผลเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น”