เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่บริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย นำโดยนายประสิทธิ์ชัย หนูนวล นายอัครเดช ฉากจินดา น.ส.ช่อขวัญ คิตตี้ ช่อผกา และเครือข่ายฯ ประกาศยกระดับการชุมนุมด้วยการอดอาหารประท้วง พร้อมกับอ่านแถลงการณ์ เพื่อส่งเสียงไปยังรัฐบาล โดยระบุว่า
ต้นไม้ต้นหนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นยารักษามนุษยชาติมาตั้งแต่หมื่นปีที่แล้ว มาวันนี้กำลังถูกมนุษย์พวกหนึ่งใช้ความละโมบของตัวเองเพื่อครอบครองต้นไม้ต้นนี้แต่เพียงผู้เดียว วิธีการผูกขาดผลประโยชน์จากต้นไม้ต้นนี้ คือการนำมันไปขังไว้เพื่อไม่ให้ผู้ใดมีส่วนในการใช้ประโยชน์ได้อีก ต้นไม้ต้นนี้ถูกขังคุกมากว่า 50 ปี และเมื่อปี 2565 ได้มีการปล่อยต้นไม้ต้นนี้ออกจากคุกคุมขัง เพื่อให้มาอยู่กับสังคมได้ ในระหว่างที่ต้นไม้ต้นนี้ใช้ชีวิตร่วมกับสังคมในช่วงสองปีที่ผ่านมา กลับถูกกล่าวร้ายตลอดเวลาว่าเป็นสาเหตุแห่งความคลั่งของมนุษย์ สองปีที่ผ่านมา แทนที่สังคมจะทำความเข้าใจกับต้นไม้ต้นนี้ กลับกล่าวร้ายต่อมันโดยไม่ได้รู้จักมัน ไม่เคยสัมผัสมัน แต่ทว่าตัดสินมันด้วยอคติ และคำตัดสินนี้กำลังนำต้นไม้ต้นนี้กลับไปขังคุกอีกครั้ง มันเป็นธรรมแล้วเช่นนั้นหรือ
กัญชากำลังจะถูกพิพากษาให้กลับเข้าคุกอีกครั้งทั้งที่ไม่มีความผิดใด พวกเขาพิพากษาโดยไม่มีการไต่สวน แม้ว่าเราจะขอให้ตั้งกรรมการเพื่อวิจัยข้อเท็จจริง พวกเขาก็ปฏิเสธ กลุ่มคนชุดเสื้อกราวสีขาวที่ได้รับความเชื่อถือจากสังคมไทยมานานกลับใช้อำนาจเผด็จการพิพากษาโดยไม่ไต่สวน หากต้นไม้ต้นหนึ่งจะถูกจำคุกก็ควรให้ความเป็นธรรมกับมันด้วยการผ่านกระบวนการไต่สวนเพื่อให้สังคมรับรู้ว่าต้นไม้ต้นนี้มีความผิดอะไรจึงจับมันไปคุมขังอีกครั้ง
“การพิพากษาโดยไม่ไต่สวน คือสิ่งที่หมอในกระทรวงสาธารณสุขร่วมมือกับนักการเมืองกระทำการต่อต้นไม้ต้นหนึ่งพวกเขาวางแผนอย่างเป็นระบบทั้งงานสื่อ งานวิจัย งานมวลชน กลับจัดตั้งอย่างเป็นระบบเพื่อใส่ร้ายกัญชาตลอดระยะเวลาสองปีที่ผ่านมา”
เราเชื่อว่าจะตัดสินสิ่งใดต้องรู้จักสิ่งนั้นอย่างชัดเจนก่อน เมื่อเรารับทราบด้วยตนเองว่ากัญชาคือยาสำหรับมนุษยชาติ เรามิอาจให้นำกัญชากลับไปคุมขังได้อีก ตลอดสองปีที่ผ่านมา เราพยายามกันอย่างยิ่งยวด เพื่อทำกฎหมาย พ.ร.บ.กัญชา เพื่อควบคุมกัญชา แต่ให้อยู่กับสังคมได้โดยไม่ต้องผลักให้ไปอยู่ในคุก แต่ทว่าเส้นทางนี้ถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่าจากมนุษย์ที่ถืออำนาจ เพราะพวกเขาต้องการพิพากษากัญชาโดยไม่ต้องไต่สวน เพื่อกระทำการผูกขาดผลประดยชน์กัญชาแต่เพียงกลุ่มเดียว
“เพื่อการดำรงอยู่ของพืชต้นหนึ่งในฐานะความมั่นคงทางยาของมนุษย์ เราขอใช้อารยะขัดขืนเพื่อแสดงเจตนาอันแน่วแน่ให้รัฐไต่สวนก่อนการพิพากษากัญชา เราจะใช้ความอดทนขั้นสูงสุดเพื่อบอกกับสาธารณะว่า กัญชาสามารถควบคุมโดยกฎหมายปกติ จึงขอประท้วงต่อการกระทำของรัฐด้วยการอดอาหารจนกว่ารัฐจะยอมไต่สวนก่อนการพิพากษา ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของเราที่มีต่อต้นไม้ของมนุษยชาติ ท่ามกลางการหิวโหยอำนาจของมนุษย์อีกจำพวกหนึ่ง”