สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ แถลงต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำ 32 ประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ซึ่งประชุมกันที่กรุงวอชิงตัน ในโอกาสที่ปีนี้ครบรอบ 75 ปี การสถาปนานาโต ว่ารัสเซียจะไม่มีทางเป็นฝ่ายชนะเหนือยูเครน ในสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 2 ปี แต่ยูเครนจะยังคงมีสถานะ “รัฐเอกราช”
ไบเดนกล่าวต่อไปว่า สถานการณ์สงครามในยูเครนตอนนี้ “อยู่ในห้วงเวลาสำคัญ” และสหรัฐจะมอบความสนับสนุนเพิ่มเติม ที่จะเป็นระบบป้องกันแพทริออตให้แก่รัฐบาลเคียฟ นอกเหนือจากที่เยอรมนีและโรมาเนียให้คำมั่น จะมอบให้แก่ยูเครนเพิ่มเติมอีกประเทศละหนึ่งชุด นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์จะมอบระบบป้องกันแพทริออตให้แก่ยูเครนเพิ่มอีกชุดหนึ่งเช่นกัน โดยจะร่วมกับสมาชิกนาโตอีกหลายประเทศ
ขณะที่นายเยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต เรียกร้องสมาชิกร่วมกันสนับสนุนยูเครนต่อไป เนื่องจากหากรัสเซียเป็นฝ่ายชนะสงครามครั้งนี้ จะกลายเป็น “ความเสี่ยงใหญ่หลวงที่สุด” สำหรับสหภาพทางทหารแห่งนี้
ด้านประธานาธิบดีโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน เข้าร่วมการประชุมสุดยอดนาโตครั้งนี้เช่นกัน ในฐานะแขกรับเชิญพิเศษ เรียกร้อง “การดำเนินการที่จริงจังของสหรัฐและยุโรป”
ส่วนนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า รัสเซียติดตามการประชุมสุดยอดนาโตครั้งนี้ “ด้วยความสนใจอย่างสูงสุด” รัฐบาลมอสโก “รับทราบและให้ความสนใจ” กับ “ทุกวาทกรรมและทุกการตัดสินใจ” จากการประชุมนาโตครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม สหรัฐและเยอรมนียังคง “ไม่เปิดโอกาสชัดเจน” ให้กับเส้นทางของรัฐบาลเคียฟ ในการเจรจาเข้าเป็นสมาชิกนาโต โดยกล่าวว่า “สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้” คือ “ยูเครนต้องเป็นฝ่ายชนะสงครามให้ได้ก่อน”
อีกด้านหนึ่ง จีนประณามการประชุมนาโตครั้งนี้เช่นกัน ว่าเป็นสัญญาณชัดเจนมากขึ้น ว่าต้องการขยายอิทธิพลทางทหารเข้าสู่ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก จากการเชิญญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ให้เข้าร่วมการประชุม.
เครดิตภาพ : AFP