เมื่อวันที่ 8 ก.ค. น.ส.บุปผา เรืองสุด อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทักษะด้านดิจิทัลของแรงงานไทยจำเป็นต้องปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ยังมีแรงงานจำนวนมากที่ตกงานเพราะขาดทักษะด้านดิจิทัล อีกทั้งตลาดแรงงานไทยยังมีแนวโน้มที่จะเลิกจ้างแรงงานในสาขาที่มีความเสี่ยงสูงซึ่งเป็นงานที่ไม่ต้องใช้ทักษะฝีมือ สามารถใช้เทคโนโลยีแทนมนุษย์ได้ เช่น พนักงานต้อนรับ พนักงานบัญชีและกรอกข้อมูล ผ่ายบริการลูกค้า เป็นต้น ดังนั้น การมีทักษะด้านดิจิทัลจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ไม่ใช่แค่เรื่องการอยู่รอดในระดับปัจเจกบุคคลเท่านั้น แต่ยังเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอีกด้วย
ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาฝีมือแรงงานบูรณาการร่วมกับสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA กระทรวงเศรษฐกิจและสังคม พัฒนาและยกระดับทักษะด้านดิจิทัลให้แก่แรงงานอย่างเร่งด่วน พัฒนาและปรับปรุงระบบการฝึกในรูปแบบ Online ให้มากขึ้น ส่งเสริมให้แรงงานสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองและสามารถเข้าถึงได้ง่าย ปัจจุบัน กรมพัฒนาฝีมือแรงงานให้บริการในแบบ Online และได้รับความสนใจจากประชาชนเกือบ 3 ล้านคน ซึ่งต้องการให้แรงงานได้รับการพัฒนาให้มากกว่านี้ จึงจำเป็นต้องร่วมกับหน่วยงานที่เชี่ยวชาญหลายหน่วยงาน เพื่อสร้างโอกาสให้แก่แรงงานไทย ส่วนหนึ่งเป็นจุดผลักดันด้านเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศอีกด้วย
น.ส.บุปผา กล่าวต่อไปว่า กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยสถาบันพัฒนาบุคลากรดิจิทัล (DISDA) จัดทำ DSD Online Training ให้แรงงานทุกกลุ่มสามารถเรียนรู้พัฒนาทักษะผ่านออนไลน์ โดยปี 2567 มีผู้สนใจเข้าอบรมใน 37 หลักสูตร จำนวน 90,483 คน ทั้งนี้ ได้ร่วมกับ ETDA ในการพัฒนาหลักสูตร EDC PLUS ต่อยอดจากหลักสูตร ETDA Digital Citizen เป็นหลักสูตรที่ส่งต่อความรู้ สู่พลเมืองดิจิทัล ระยะเวลาการฝึกอบรม 3 ชั่วโมง 15 นาที กลุ่มเป้าหมายเป็นแรงงานใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น น้องๆ ที่เพิ่งจบการศึกษาใหม่ ต้องการสร้าง Profile บนสื่อโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างให้น่าสนใจ รวมถึงข้อควรระวังในการ Post ข้อความต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนเข้าทำงาน โดยเป็นแนวทางในการใช้ชีวิตประจำวัน การทำธุรกรรมบนโลกดิจิทัลอย่างรู้เท่าทัน อย่างมั่นคงและปลอดภัย หลักสูตรจะมีการพัฒนาและปรับปรุงให้ทันสมัยสอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันให้มากขึ้น ซึ่งจะเปิดให้เรียนฟรีผ่านออนไลน์เร็วๆ นี้ คาดว่า ปลาย ก.ค. 2567 จะสามารถให้บริการแก่ประชาชนได้ นอกจากนี้กรมยังได้จัดทำระบบ CRM (Customer Relationship Management) สำหรับใช้ในการเก็บข้อมูลของผู้รับบริการ อาทิ ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร การวิเคราะห์ข้อมูล จัดกลุ่มผู้ใช้บริการตามข้อมูลที่ได้ ช่องทางการติดต่อสื่อสารถึงผู้รับบริการ วัดผลเพื่อปรับปรุงการบริการให้ดีขึ้น ซึ่งข้อดีของการทำ CRM ช่วยให้กรมเข้าใจความต้องการของผู้รับบริการและบริการอย่างตรงจุด เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ ปรับปรุงการบริการให้ดียิ่งขึ้น สำหรับผู้ที่สนใจเรียนรู้ออนไลน์ สามารถดูหลักสูตรที่สนใจได้ที่ DSD Online Training หรือ https://onlinetraining.dsd.go.th